“ก้อย-โย่ง” แต่งวันที่ 5 เดือน 5 ปี 55 เผยฝ่ายชายลงทุนตัดเย็บชุดเจ้าสาวด้วยตัวเอง

“ก้อย- โย่ง” เผยฤกษ์สะดวกวิวาห์วันที่ 5 เดือน 5 ปี 55 เพราะเป็นวันที่มีแต่ 555 ชีวิตจะได้มีแต่เสียงหัวเราะ ธีมงานย้อนยุค ฝ่ายชายลงทุนเรียนตัดเย็บเสื้อผ้าเพื่อตัดเย็บชุดแต่งงานให้กับฝ่ายหญิง อยากไปฮันนีมูนด้วยการนั่งรถไฟไซบีเรีย ซึ่งเป็นเส้นทางรถไฟที่ยาวที่สุดในโลกเพื่อเป็นการพิสูจน์รักแท้ พร้อมเปิดอู่ปั๊มลูกแฝดทันที
       มีแพลนวิวาห์ไว้ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา สำหรับคู่รักนักร้องขวัญใจเด็กแนว “โย่ง อาร์มแชร์" อนุสรณ์ มณีเทศ และ “ก้อย แซทเทอร์เดย์ เซโกะ” วลัยลักษณ์ มุสิกโปฏก แต่เพราะพิษน้ำท่วมจึงมีเหตุต้องเลื่อนงานแต่งออกไป ล่าสุดทั้งคู่ได้มาร่วมงานเปิดตัวคอนโด แอ็บสแตรกส์ พหลโยธิน พาร์ค (ลาดพร้าว) พร้อมโชว์มินิคอนเสิร์ต ที่จำลองพิธีแต่งงานย่อยๆของทั้งคู่ งานนี้จึงได้เห็นช็อตหวานๆ อีกทั้งว่าที่เจ้าบ่าวและเจ้าสาวยังได้เปิดใจถึงพิธีงานแต่งที่ใกล้จะถึงใน เดือนพฤษภาคมนี้ว่า
โย่ง : “เรื่องงานแต่งตอนนี้ก็ได้ฤกษ์เป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ วันที่ 5 เดือน 5 ปี 55 ที่เลือกวันนี้เพราะเป็นฤกษ์ที่สะดวกเลยขอแอบมีเรื่องตัวเลขนิดนึงเป็นวัน ที่น่ารักที่สุดของปีเวลาพูดออกมามันมีแต่ 555 เหมือนเสียงหัวเราะ และก็เป็นวันเสาร์เพื่อนๆ สะดวกกันด้วย แล้วที่สำคัญเวลาที่วันครบรอบมันจำได้ง่ายด้วย (หัวเราะ)”
ก้อย : “แล้วอีกอย่างเรื่องสถานที่ก็อำนวยด้วยว่างพอดี ที่เลือกจัดที่มิวเซียมสยามคือต้องบอกก่อนว่าเราเลือกกันหลายที่โรงแรมก็ สะดวกดี แต่ส่วนตัวเราก็คิดว่าวันนี้โรงแรมคงเต็มหมด จริงๆแล้วที่ก้อยชอบมิวเซียมสยามเพราะที่นั่นเป็นที่เก็บรวบรวมความทรงจำดีๆ และเราก็อยากมีความทรงจำที่ดีก็ต้องขอบคุณสถานที่ด้วย”
       จัดงานที่มิวเซียมสยามตอนนี้การเตรียมงานคืบหน้าไป 30 เปอร์เซ็นต์แล้ว
โย่ง : “ธีมงานแต่งชอบแบบวินเทจสไตล์ 1920 อยากให้คนที่มางานร่วมใส่หมวกกันด้วย”
ก้อย : “คืองานจัดนอกสถานที่มันไม่รู้ฝนจะตกหรือเปล่าเลยให้ใส่หมวกกันไว้ก่อน แต่จริงๆ ถ้าฝนมาก็ไม่กลัว”
โย่ง : “เรื่องความพร้อมตอนนี้ก็เตรียมไปได้ 30 เปอร์เซ็นต์กว่าๆ ตอนแรกเราก็จัดกันเองทำกันเอง ไม่คิดว่ารายละเอียดมันจะเยอะขนาดนี้ แต่ไม่คิดจะวุ่นวายขนาดนี้ทั้งอาหาร สถานที่ ชุดอีก ตอนนี้ก็เลยมีเพื่อนเข้ามาช่วย”
       อยากไปฮันนีมูนไซบีเรียเพื่อพิสูจน์รักแท้
ก้อย : “เรื่องฮันนีมูนเดี๋ยวอาจจะดูๆกันไว้”
โย่ง : “ตอนแรกจะ ชวนคุณก้อยไปนั่งรถไฟสายทรานส์ไซบีเรียซึ่งต้องใช้เวลา2เดือน ที่อยากไปเพราะอยากจะพิสูจน์รักว่าถ้าอยู่ด้วยกัน 2 เดือนเห็นหน้ากันทั้งวันทั้งคืน คือถ้าไม่รักก็คงเกลียดกันไปเลย (หัวเราะ) ส่วนเรือนหอผมก็กำลังสร้างออฟฟิศอยู่ก็เหมือนเป็นบ้านของผม เสร็จไป 70 - 80 เปอร์เซ็นต์แต่งเสร็จคุณก้อยก็จะย้ายเข้าไปดูแล อยู่ย่านเกษตรนวมินทร์”
       เผยชุดแต่งงาน “โย่ง” เป็นคนออกแบบตัดเย็บเอง
ก้อย : “เรื่องชุดงานแต่งอย่างที่บอกคุณโย่งออกแบบตัดเย็บให้ค่ะ”
โย่ง : "เรื่องชุดเราก็ได้เห็นแบบที่เขาร่างไว้ในกระดาษแล้ว เราก็“ตั้งใจ ทำให้เขาเพื่อเป็นของขวัญ ที่ผ่านมาคุณก้อยไม่เคยขอร้องอะไรที่ทำให้ผมลำบากใจ ผมเลยรู้สึกอายตัวเองเพราะคุณก้อยเขาดูแลผมดีมาก ผมก็เลยอยากให้วันแต่งงานเขาสวยที่สุด ตอนแรกเรียนผ่านยูทูปแต่มันไปไม่รอด เลยไปหาคุณครูเก่งๆ มาสอน ตอนนี้เริ่มขึ้นโครงแล้วและกำลังจะไปซื้อผ้า ได้เกาะอกแล้วครับกำลังลงมาที่กระโปรงสีก็ครีมๆขาวๆ คิดว่าเสร็จทันแน่นอน"
ก้อย : อยากขอดูบ้างเห็นแล้วก็น่ารักมากกว่า ก้อยทึ่งมากเพราะมันเป็นเรื่องที่ยากมาก มันคงไม่เซอร์ไพร์สแล้วเพราะเรารู้แล้ว แต่มันยิ่งกว่าเซอร์ไพร์สอีกเขาต้องอดทนมาก ส่วนเรื่องเซอร์ไพร์สเขาต้องมีแน่นอน”
โย่ง : "ถามว่าต่อจากนี้ไปจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรไหมหลังจากที่แต่งงานแล้ว ผมว่าการแต่งงานก็คืองานปาร์ตี้งานหนึ่งที่เชิญแขกมาร่วมเป็นสักขีพยานเพื่อ ให้รู้ว่าเรากำลังเปลี่ยนสถานะจากแฟนมาเป็นสามีภรรยาแค่นั้นเอง ถ้ามันจะเปลี่ยนแปลงมันคงเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นมากกว่า ส่วนเรื่องลูกได้หมดครับไม่ว่าจะชายหรือหญิง ขอให้เกิดมาแข็งแรงพอ"
ก้อย : “อยากได้แฝดนะ (หัวเราะ)”