Spy shot new Honda CR-V 2012






ภาพหลุดก่อนเปิดตัว Honda CR-V ใหม่

บอกเอาไว้ก่อนว่าที่เห็นอยู่นี้ แม้จะเป็นภาพคันจริงที่มาจากผู้ผลิตสำหรับใช้ในการทำสื่อสิ่งพิมพ์ แต่ ณ วันที่ต้นฉบับเรื่องนี้ถูกปิด ทางฮอนด้ายังไม่มีการแจกภาพชุดนี้ออกมาอย่างเป็นทางการ คาดว่าคงถูกมือดีฉกออกมาและสแกนเผยแพร่ในอินเตอร์เนต นั่นก็เลยทำให้บรรดาแฟนๆ ในโลกไซเบอร์สเปซก็เลยได้รับประโยชน์ กับการได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของฮอนด้า CR-V ใหม่เป็นครั้งแรกก่อนรถคันจริงจะเปิดตัวเสียอีก

กำหนดเปิดตัวของ CR-V ใหม่จะมีขึ้นที่งานแอลเอ มอเตอร์โชว์ปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ ส่วนที่เห็นอยู่เป็นเวอร์ชัน JDM หรือรุ่นที่ขายในญี่ปุ่น ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวและเริ่มทำตลาดต้นเดือนธันวาคมหลังงานโตเกียว มอเตอร์โชว์ 2011 โดยไม่ว่าจะเป็นเวอร์ชันที่ขายในญี่ปุ่นหรือที่ตลาดไหนของโลก CR-V จะมีหน้าตาแบบเดียว ไม่เหมือนกับซีวิค ที่มีแบ่งออกเป็นภูมิภาคต่างๆ



แม้จะเป็นครั้งแรกที่เราได้เห็นรายละเอียดภายในห้องโดยสาร ของ CR-V ใหม่แบบเต็มๆ แต่ในเรื่องของสเปกเครื่องยนต์และมิติตัวถังก็ยังเป็นความลับไม่มีการเปิด เผยออกมาในครั้งนี้ แต่ทว่าบรรดาผู้ที่ติดตามข่าวสารอยู่ในโลกอินเตอร์เนตต่างก็เชื่อว่า CR-V ใหม่จะยังมากับทางเลือกแบบเดิมๆ นั่นคือมีทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าและ 4 ล้ออัตโนมัติ โดยที่ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ 2400 ซีซี ในการขับเคลื่อน ส่วนตลาดยุโรปคาดว่าคงมีทางเลือกเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล

เตรียมนับถอยหลังรอกันได้ แล้วสำหรับนักขับบ้านเรา และถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด หรือโดนโรคเลื่อนเล่นงาน CR-V ใหม่ น่าจะลงตลาดตามหลังซีวิคใหม่ที่จะเปิดตัวปลายปีนี้ไม่นาน






ที่มา ผู้จัดการออนไลน์

ด่วน!! เกิดเสียงระเบิดที่อาคาร "เตาปฏิกรณ์ 2" ของญี่ปุ่นเช้านี้

เกิดเสียงระเบิดขึ้น ที่อาคารเตาปฏิกรณ์หมายเลข 2 ของโรงไฟฟ้าฟูกูชิมะเช้าวันนี้(15) แต่ผู้บริหารโรงไฟฟ้าเชื่อคอนเทนเนอร์ครอบเตาปฏิกรณ์ไม่น่าจะได้รับความเสีย หาย

เอเอฟพี - เกิดเสียงระเบิดขึ้นที่อาคารเตาปฏิกรณ์หมายเลข 2 ของโรงไฟฟ้าฟูกูชิมะในช่วงเช้าวันนี้(15) ซึ่งนับเป็นการระเบิดครั้งที่ 3 ตั้งแต่วันเสาร์(12)ที่ผ่านมา ผู้บริหารโรงไฟฟ้าเผย
       โฆษกบริษัท โตเกียว อิเล็คทริค เพาเวอร์ โค (เท็ปโก้) เปิดเผยว่า “เกิดการระเบิดอย่างรุนแรง” ขึ้นที่อาคารเตาปฏิกรณ์หมายเลข 2 เมื่อเวลาประมาณ 6.00 ถึง 6.15 น. ตามเวลาท้องถิ่น วันนี้(15)
       รัฐบาลญี่ปุ่นระบุว่า คอนเทนเนอร์ครอบเตาปฏิกรณ์เสียหายบางส่วน แต่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าความเสียหายดังกล่าวเกิดจากแรงระเบิดหรือไม่
       ยูกิโอะ เอดาโนะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี บอกกับผู้สื่อข่าวว่า อ่างเก็บน้ำหล่อเย็นของเตาปฏิกรณ์หมายเลข 2 ซึ่งเป็นส่วนที่ใช้เก็บกักน้ำเพื่อลดอุณหภูมิและควบคุมความดัน ได้รับความเสียหาย
       “แต่ยังไม่ปรากฎว่ามีปริมาณกัมมันตรังสีเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด” เอดาโนะ กล่าว
       เท็ปโก้ เชื่อว่า คอนเทนเนอร์ครอบเตาปฏิกรณ์ไม่น่าจะได้รับความเสียหายหรือเกิดรอยรั่ว เนื่องจากระดับกัมมันตรังสีไม่ได้เพิ่มสูงขึ้น โฆษกสำนักงานความปลอดภัยด้านปรมาณูญี่ปุ่น เผย
       ล่าสุด เท็ปโก้ ได้อพยพคนงานบางส่วนออกจากบริเวณเตาปฏิกรณ์หมายเลข 2 แล้ว
       "เราได้อพยพพนักงานออกไปยังพื้นที่ปลอดภัยแล้ว เว้นแต่ผู้ที่มีหน้าที่ลดอุณหภูมิเตาปฏิกรณ์" โฆษกเท็ปโก้ ระบุ
       เจ้าหน้าที่สำนักงานความปลอดภัยด้านอุตสาหกรรมและปรมาณูญี่ปุ่น ให้สัมภาษณ์ว่า "คนงานที่อยู่ใกล้เตาปฏิกรณ์หมายเลข 2 ถูกอพยพออกไปทั้งหมด ยกเว้นพวกที่ต้องสูบน้ำเข้ามาลดอุณหภูมิของเตา"
       "แต่การอพยพคนไม่ได้หมายความว่าสถานการณ์เข้าขั้นวิกฤต"

ที่มา ผู้จัดการออนไลน์

ญี่ปุ่นชะลอลงทุนไทยชั่วคราว หลังเจอสึนามิ-แผ่นดินไหว

Pic_155836

บิ๊กแบงก์กรุงไทยรับ แผ่นดินไหว-สึนามิ ส่งผลนักลงทุนญี่ปุ่นชะลอลงทุนในไทยชั่วคราว ส่วนโครงการรถไฟฟ้าสายแดงที่ศาลปกครองสั่งเพิกถอนการว่าจ้างกลุ่มยูนิค-ซุน วู จอยท์เวนเจอร์ แบงก์ยันไม่ตัดวงเงินสินเชื่อ พร้อมสนับสนุนสินเชื่อต่อไป...

14 มี.ค. นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การเกิดเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิในญี่ปุ่น การลงทุนขนาดใหญ่ของญี่ปุ่นที่มีแผนลงทุนในประเทศ อาจมีการชะลอตัวระยะหนึ่ง ขณะที่การลงทุนที่มีแผนงานไว้ เชื่อว่าจะดำเนินการต่อไป แต่ต้องรอการฟื้นฟูประเทศ

สำหรับธุรกิจส่งออกและธุรกิจขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) ที่ส่งสินค้าไปยังประเทศญี่ปุ่น ได้รับผลกระทบบ้างแต่ไม่มาก เนื่องจากสินค้าส่งออกของไทย ส่วนใหญ่ส่งออกในแถบอาเซียนและจีน ส่วนตลาดญี่ปุ่นในปัจจุบันมีสัดส่วนที่ไม่มาก จึงเชื่อว่ามีผลกระทบต่อภาพรวมของธนาคาร

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้คำสั่งซื้อสินค้าจากญี่ปุ่นเริ่มมีการหยุดชะงักชั่วคราว แต่ลูกค้าของธนาคารยังไม่มีการหยุดผลิต เนื่องจากเมื่อมีการฟื้นฟูประเทศ เชื่อว่าจะต้องมีการสั่งซื้อสินค้าจากประเทศไทยเพิ่มขึ้น ขณะที่ธุรกิจการท่องเที่ยวและโรงแรมของไทย เชื่อว่าจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพราะจากการสอบถามลูกค้าของธนาคาร ได้ยืนยันว่ามีนักท่องเที่ยวเดินทางมาปกติ

“ลูกค้าแพ็กกิ้งเครดิตที่ส่งสินค้าออกไปญี่ปุ่น หากรายใดได้รับผลกระทบ เมื่อติดต่อมา ธนาคารก็พร้อมพิจารณาช่วยเหลือ โดยรูปแบบการช่วยเหลือจะพิจารณาเป็นรายๆ ไป” นายอภิศักดิ์ กล่าว

กรรมการผู้จัดการธนาคารกรุงไทย กล่าวถึงกรณีศาลปกครองกลางมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งจ้างกลุ่มยูนิค-ซุนวู จอยท์เวนเจอร์ ในการก่อสร้างโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ว่า ธนาคารได้เป็นผู้สนับสนุนสินเชื่อในการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง ซึ่งขณะนี้ธนาคารยังให้การสนับสนุนเป็นปกติ ไม่ได้มีการระงับหรือตัดวงเงินสินเชื่อ เนื่องจากโครงการยังดำเนินการก่อสร้างเป็นปกติ

“โครงการยังไม่ได้หยุดก่อสร้าง ธนาคารยังสนับสนุนสินเชื่อเป็นปกติ ที่ผ่านมาลูกค้ามีการชำระหนี้เข้ามามากแล้ว เพราะเมื่อโครงการที่ก่อสร้างมีการส่งงวดงานให้กับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ก็จะได้เงินมาชำระหนี้กับธนาคาร และตอนนี้ชำระหนี้เข้ามามากแล้ว และวงเงินสินเชื่อที่ปล่อยไปเป็นหลักพันล้านบาท” นายอภิศักดิ์ กล่าว

สำหรับการปล่อยสินเชื่อของธนาคารในช่วง 2 เดือนแรก มียอดการปล่อยสินเชื่อลูกค้ารายใหญ่เข้ามาจำนวนมาก ทำให้เมื่อเทียบระหว่างเดือนต่อเดือน หรือเทียบระหว่างไตรมาสนี้กับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน มีอัตราการเติบโตของสินเชื่อสูงกว่าที่คาดหวัง และเชื่อว่าปีนี้ยอดสินเชื่อโตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 7-8 %

“ยอดสินเชื่อเอกชนรายใหญ่ที่ปล่อยไปช่วง 2 เดือน มีวงเงิน 40,000-50,000 ล้านบาท แต่ก็มีสินเชื่อราชการ มีการนำเงินมาชำระคืน 20,000-30,000 ล้านบาท และเมื่อหักกลับกันแล้ว ยอดสินเชื่อได้เติบโตเพิ่มขึ้นมาก แต่ว่าจะมีสินเชื่อราชการชำระคืน” นายอภิศักดิ์ กล่าว

ที่มา ไทยรัฐออนไลน์

ด่วน!! โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ยุ่นระเบิดรอบ 2 - บาดเจ็บ 6 ราย

ภาพกลุ่มควันสีขาวพวยพุ่งออกจากเตาปฏิกรณ์หมายเลข 3 ของโรงไฟฟ้าฟูกูชิมะ หลังเกิดการระเบิดของไฮโดรเจนขึ้น วันนี้(14)

เอเอฟพี - เตาปฏิกรณ์หมายเลข 3 ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะเกิดระเบิดขึ้นแล้ววันนี้(14) หลังระบบหล่อเย็นภายในล้มเหลว เนื่องจากเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิที่คาดว่าจะคร่าชีวิตชาวญี่ปุ่นไม่น้อยกว่า 10,000 คน

       ญี่ปุ่นพยายามควบคุมความร้อนภายในเตาปฏิกรณ์ของโรงไฟฟ้าฟูกูชิมะ หลังระบบหล่อเย็นได้รับความเสียหายอย่างหนักจากแผ่นดินไหวขนาด 8.9 ริกเตอร์เมื่อวันศุกร์ (11) ที่ผ่านมา
       แต่ไม่นานหลังจากที่นายกรัฐมนตรี นาโอโตะ คัง ออกมาเตือนว่า โรงไฟฟ้าฟูกูชิมะซึ่งอยู่ห่างจากกรุงโตเกียวไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 250 กิโลเมตรยังอยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยง เตาปฏิกรณ์หมายเลข 3 ก็เกิดระเบิดดังสนั่น และส่งกลุ่มควันพวยพุ่งสู่ท้องฟ้า
       เท็ปโก ซึ่งเป็นผู้บริหารโรงไฟฟ้าเปิดเผยว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 6 คน เป็นพนักงานของเท็ปโก 4 คน และคนงานอีก 2 คน โดยขณะนี้ทั้งหมดรู้สึกตัวแล้ว
       หนังสือพิมพ์ จิจิ เพรส รายงานว่า มีทหารได้รับบาดเจ็บอีก 4 นาย
       ทางการญี่ปุ่นคาดว่าอุบัติเหตุครั้งล่าสุดนี้น่าจะเกิดจากการระเบิดของก๊าซไฮโดรเจน
       ยูกิโอะ เอดาโนะ หัวหน้าโฆษกรัฐบาล แถลงรายงานจากเท็ปโกว่า เตาปฏิกรณ์หมายเลข 3 อาจไม่รับความเสียหาย และโอกาสที่จะเกิดการรั่วไหลของสารกัมมันตภาพรังสีอย่างรุนแรงยังเป็นไปได้น้อย
       “อุปกรณ์ครอบเตาปฏิกรณ์ไม่ได้รับความเสียหาย และไม่ปรากฏว่ามีการแพร่กระจายของสารกัมมันตรังสีในระดับรุนแรง” เอดาโนะกล่าว
       เจ้าหน้าที่พยายามฉีดน้ำทะเลเข้าไปในเตาปฏิกรณ์เพื่อทดแทนระบบหล่อเย็น ซึ่งจะช่วยประคับประคองให้โรงไฟฟ้าอายุกว่า 40 ปีแห่งนี้ใช้การต่อไปได้
       เมื่อวันเสาร์ (12) ที่ผ่านมา แรงระเบิดจากเตาปฏิกรณ์หมายเลข 1 ส่งผลให้ตัวอาคารที่อยู่โดยรอบพังเสียหาย ขณะที่อุปกรณ์ครอบแกนปฏิกรณ์ยังคงใช้การได้

ภาพเปรียบเทียบโครงสร้างอาคารครอบเตาปฏิกรณ์หมายเลข 3 ก่อน(ล่าง) และหลังการระเบิด

ญี่ปุ่นเร่งป้องกันภัยโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ หลังปล่อยกัมมันตรังสีลดแรงดันหอปฏิกรณ์

โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ ซึ่งได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่

เอเอฟพี - ญีปุ่นเร่งป้องกันอุบัติเหตุร้ายแรงอันจะเกิดขึ้นที่โรงไฟฟ้าปรมาณู 2 แห่ง ซึ่งระบบหล่อเย็นของเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ล้มเหลว หลังเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่สุดในรอบ 140 ปี ขณะที่ทางการก็รีบอพยพชาวบ้านหลายหมื่นคนออกจากพื้นที่แล้ว
       โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ 2 แห่งที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้คือ โรงไฟฟ้าฟูกูชิมะหมายเลข 1 และหมายเลข 2 ทั้งคู่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงโตเกียว ห่างออกไปประมาณ 250 กิโลเมตร
       ทั้งนี้มีการตรวจพบกัมมันตภาพรังสีที่สูงกว่าปกติถึง 1,000 เท่าในห้องควบคุมความเย็นของโรงไฟฟ้าแห่งหนึ่ง แม้ว่าเจ้าหน้าที่ชี้ว่าระดับรังสีดังกล่าวภายนอกโรงไฟฟ้าจะสูงกว่าปกติ เพียง 8 เท่า และยืนยันว่า "ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายในทันที"
       โตเกียวอิเล็กทริกพาวเวอร์ ซึ่งดำเนินกิจการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เผยว่า ทางบริษัทได้ปล่อยไอกัมมันตรังสีจากโรงไฟฟ้าหมายเลข 1 ออกสู่บรรยากาศ เพื่อลดแรงดันในอาคารปฏิกรณ์ปรมาณู พร้อมกับยืนกรานว่าการกระทำดังกล่าวไม่ก่อให้เกิดอันตราย
       ขณะที่รัฐบาลประกาศภาวะฉุกเฉินด้านปรมาณู ท่ามกลางความกังวลของนานาชาติที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับโรงไฟฟ้าทั้ง 2 แห่ง หลังแผ่นดินไหวระดับ 8.9 ซึ่งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น ส่งผลให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิซัดถล่มหลายพื้นที่ รวมถึงโรงไฟฟ้าทั้งสองด้วย
       ด้านฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า กองทัพอากาศ ที่ประจำการอยู่ในหลายพื้นที่ของญี่ปุ่น ได้ส่งตัวทำความเย็นไปยังโรงงานนิวเคลียร์แห่งหนึ่ง โดยไม่ได้ระบุว่าเป็นที่ไหน
       ส่วนการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ก็ยังขยายวงกว้างขึ้นอีก จากเดิมที่มีคำแนะนำให้ชาวบ้านในรัศมี 3 กิโลเมตรรอบโรงไฟฟ้าหมายเลข 1 ซึ่งมีจำนวนไม่ถึง 6,000 คนอพยพออกจากพื้นที่ ในวันศุกร์ (11) ที่ผ่านมา ได้เพิ่มรัศมีเป็น 10 กิโลเมตร ซึ่งมีจำนวนรวมราว 45,000 คน
       นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังสั่งให้อพยพประชาชนที่อาศัยอยู่ในรัศมี 3 กิโลเมตรรอบโรงไฟฟ้าหมายเลข 2 ออกจากพื้นที่ โดยที่ประชาชนในรัศมีไกลกว่านั้นจนถึง 10 กิโลเมตรได้รับคำแนะนำให้อยู่แต่ในบ้าน เนื่องจากยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับปัญหาของหอหล่อเย็น

สึนามิจากญี่ปุ่นซัดฮาวาย-ชายฝั่งตะวันตกสหรัฐฯ เรือพังยับ-คนหาย 1 ราย

ท่าเรือในซานตาครูซได้รับความเสียหายจากสึนามิ

เอเอฟพี - สึนามิหลายระลอกอันเกิดจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ของญี่ปุ่นเดินทางเป็นระยะทาง หลายพันกิโลเมตรข้ามแปซิฟิก ซัดชายฝั่งทางตะวันตกของสหรัฐฯ สร้างความเสียหายให้กับเรือเป็นหลายลำ ทั้งยังทำให้มีผู้สูญหาย 1 คน ขณะที่ทางการต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน และสั่งอพยพประชาชนครั้งใหญ่ในฮาวาย และแถบเวสต์โคสต์แล้ว
       คลื่นยักษ์ ที่มีความสูงประมาณ 2.4 เมตร ซัดถล่มชายฝั่งของแคลิฟอร์เนีย และโอเรกอน 12 ชั่วโมงหลังเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงระดับ 8.9 ในญี่ปุ่น และส่งผลให้หลายสิบประเทศทั่วมหาสมุทรแปซิฟิกต้องประกาศเตือนภัยสึนามิกัน อย่างแตกตื่น
       ซินดี เฮนเดอร์สัน ผู้จัดการหน่วยฉุกเฉินในเมืองเครสเซนต์ เผยว่า เรืออย่างน้อย 35 ลำถูกสึนามิซัดได้รับความเสียหาย โดยเมืองดังกล่าวนี้อยู่ห่างจากญี่ปุ่นถึง 11,265 กิโลเมตร และเป็น 1 ใน 5 เคาน์ตี้ของแคลิฟอร์เนียที่ได้รับคำสั่งให้อพยพประชาชนแถบชายฝั่ง
       ยามชายฝั่งสหรัฐฯ เสริมว่า ท่าจอดเรือในเมืองซานตาครูซมีเรือได้รับความเสียหายอีกราว 6 ลำ เนื่องจากแรงคลื่นทำให้เรือลอยมาชนกัน ซึ่งลิซา เอเกอร์ส ผู้อำนวยการท่าเรือประเมินมูลค่าความเสียหายสูงกว่า 10 ล้านดอลลาร์

ชายฝั่งแคลิฟอร์เนีย ซึ่งมีการประกาศภาวะฉุกเฉิน

       ด้านเจอร์รี บราวน์ ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในเคาน์ตี้แถบชายฝั่ง 4 แห่ง ซึ่งเป็นกระบวนการที่ทำให้สามารถรับเงินช่วยเหลือในการเก็บกวาดเมืองจาก รัฐบาลกลางได้
       ก่อนที่สึนามิจะปะทะแผ่นดินใหญ่ของสหรัฐฯ คลื่นยักษ์ได้ซัดเกาะฮาวายก่อน โดยเพียง 4 ชั่วโมงก่อนหน้านั้นได้มีการอพยพชาวบ้าน และนักท่องเที่ยวในพื้นที่ต่ำบนเกาะไปยังที่สูงแล้ว ซึ่งคลื่่นที่ใหญ่ที่สุดที่ซัดฮาวายนั้นมีความสูงราว 1.8 เมตร
       ศูนย์เตือนภัยสึนามิแปซิฟิกออกประกาศเตือนภัยคลื่นยักษ์ตามแนวชาย ฝั่งเวสต์โคสต์ เรื่อยไปจนถึงอเมริกากลาง อเมริกาใต้ และแอนตาร์กติกา ซึ่งหลายชั่วโมงหลังจากนั้น นีล เอเบอร์ครอมบี ผู้ว่าการรัฐฮาวายระบุว่าประกาศเตือนภัยลดระดับลงเป็นคำแนะนำระวังภัยแทน

นักท่องเที่ยวยืนดูความเสียหายหลังสึนามิปะทะเกาะฮาวาย

ซากสิ่งของหลังฮาวายประสบคลื่นยักษ์

ที่มา ผู้จัดการออนไลน์

แผ่นดินไหวยุ่นสะเทือนตลาดหุ้นร่วงทั้งภูมิภาค

 

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยประจำวันที่ 11 มี.ค.54 ปิดตลาดที่ระดับ 1,007.06 จุด ลดลง 12.16 จุด มูลค่าการซื้อขายทั้งส้ิน 28,549.06 ล้านบาท

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประจำวันศุกร์ที่ 11 มี.ค.2554 ปิดตลาดที่ระดับ 1,007.06 จุด ลดลง 12.16 จุด มูลค่าการซื้อขายทั้งส้ิน 28,549.06 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่เปลี่ยนแปลง เพิ่มขึ้น 114 หลักทรัพย์ ลดลง 286 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 130 หลักทรัพย์

สำหรับ 5 อันดับซื้อขายสูงสุด ได้แก่ บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) , บริษัท โพลีเพล็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) , บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) , ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน)

ส่วนตลาดหุ้นภูมิภาค ปิดตลาดปรับตัวลดลงทุกตลาด โดยดัชนีสเตรทไทม์ หุ้นสิงคโปร์ ปิดตลาด 3,043.49 จุด ลดลง 31.95 จุดดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดตลาดที่ระดับ 23,249.78 จุด ลดลง 365.11 จุด ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปิดตลาดที่ระดับ 10,254.43 จุด ลดลง 179.95 จุด และ ดัชนีเวทเต็ด ตลาดหุ้นไต้หวัน ปิดตลาดที่ระดับ 8,567.82 จุด ลดลง 75.08 จุด

นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทหลักทรัพย์ (บล.)เอเซียพลัสกล่าวถึงผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิที่ ประเทศญี่ปุ่นว่า คงส่งผลกระทบต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทยแค่ระยะสั้นเท่านั้น เพราะตกใจของนักลงทุน แต่ตลาดหุ้นญี่ปุ่น สัปดาห์หน้าคงมีผลกระทบระดับ หนึ่ง อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้คงมีความต้องการวัสดุก่อสร้างเพื่อการซ่อมแซมอาคารบ้านเรือนและ อาหาร โดยเฉพ่าะอาหารสำเร็จรูป ซึ่งอาจจะส่งผลดีต่อธุรกิจส่งออกอาหารของไทย อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นยังมีความกังวลหลายอย่าง หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯบางตัวออกมาแย่กว่าที่คาด รวมทั้งยังมีข่าวมูดี้ส์ลด เครดิตประเทศสเปน และความกังวลกับตัวเลขเงินเฟ้อในจีน ที่มาเป็นตัวกดดัน ซึ่งอัตราเงินเฟ้อถือเป็นกับดักสำคัญที่จะเป็นตัวถ่วงตลาดหุ้น ที่จะทำให้ตลาดหุ้นในเอเชียรวมทั้งไทยปรับตัวขึ้นไปได้ยาก และมีโอกาสที่จะปรับ ตัวลงมาต่ำกว่า1,000จุดได้อีก

ด้านนายสุกิจ อุดมศิริกุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนลูกค้าสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์(บล.)ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า สึนามิที่เกิดขึ้นใน ประเทศญี่ปุ่นนั้นแม้จะมีผลกระทบด้านจิตวิทยาการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ ที่มีต่อภูมิภาคเอเชีย และกระทบต่อการท่องเที่ยว รวมทั้งทำให้ราคา สินค้าปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ในส่วนของการลงทุนในตลาดหุ้นไทยนั้น เห็นว่ายังมีโอกาสการลงทุนในหุ้นบางกกลุ่ม โดยเฉพาะหุ้นโรงกลั่นและ ปิโตรเคมี ซึ่งจะได้รับอานิสสงส์จากการที่โรงกลั่นน้ำมันในญี่ปุ่นต้องปิดตัว จนส่งผลให้มีแรงซื้อเข้ามาทดแทน นอกจากนี้กลุ่มเกษตร ก็จะได้รับผลดี เพราะ เชื่อว่าจะมีความต้องการอาหารเพิ่มขึ้นมาก

“ระยะสั้น อาจมีแรงเทขายจากนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งเป็นผลกระทบด้านจิตวิทยาการลงทุน แต่อาจมีบางธุรกิจขอไทยที่ได้ประโยชน์ เช่น โรงกลั่น ปิโตรเคมี และกลุ่มเกษตร ซึ่งจะมีความต้องการสินค้าสูงขึ้น”นายสุกิจ กล่าว

ญี่ปุ่นแผ่นดินไหว 8.9 ริกเตอร์-สึนามิสูง 10 เมตร ซัดเมืองชายฝั่ง

 

เอเอฟพี - ญี่ปุ่นเกิดแผ่นดินไหว 8.9 ริกเตอร์ วันนี้ (11) ก่อคลื่นสึนามิขนาดใหญ่ ซึ่งพัดพาเรือเข้าใส่ชายฝั่ง สร้างความเสียหายให้เมืองชายฝั่งแปซิฟิกของแดนอาทิตย์อุทัย เจ้าหน้าที่ยืนยันมีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย
       รายงานจากจังหวัดมิยะงิ บนเกาะฮอนชู ระบุว่า มีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก แต่ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตในขณะนี้ โทรทัศน์กำลังเผยแพร่ภาพคลื่นน้ำกำลังกลืนกินพื้นที่โดยรอบชายฝั่ง
       แผ่นดินไหวดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเที่ยงวันที่ผ่านมา แรงสั่นสะเทือนรุนแรงจนอาคารสูงในกรุงโตเกียวสั่นไหว มีรายงานว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้ 6 แห่ง ในเมืองหลวงญี่ปุ่น ซึ่งรถไฟใต้ดินต้องหยุดให้บริการ สัญญาณไซเรนดังต่อเนื่อง ผู้คนหนีออกมาจากตัวอาคาร
       สำนักสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ รายงานล่าสุด ว่า แผ่นดินไหว 8.9 ริกเตอร์ครั้งนี้ เกิดขึ้นห่างจากกรุงโตเกียวไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 382 กิโลเมตร มีการประกาศเตือนภัยสึนามิ ทั้งในญี่ปุ่น ไต้หวัน รัสเซีย และบริเวณหมู่เกาะมารินา ศูนย์เตือนภัยสึนามิในแปซิฟิก รายงาน
       ล่าสุด มีรายงานว่า เกิดเหตุหลังคาอาคารถล่มระหว่างพิธีสำเร็จการศึกษา ในกรุงโตเกียว ซึ่งมีนักศึกษาเข้าร่วมพิธีประมาณ 600 คน ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ทว่า ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต หน่วยดับเพลิงโตเกียวรายงาน หลังจากเกิดแผ่นดินไหวแรงสั่นสะเทือนถึง 8.9 ริกเตอร์
       รัฐบาลญี่ปุ่นออกประกาศเตือนจังหวัดชายฝั่งทางตอนเหนือ ว่า อาจเกิดคลื่นสึนามิเพิ่มเติม สื่อท้องถิ่นแพร่ภาพคลื่นสึนามิความสูง 10 เมตร โถมเข้าใส่ท่าเรือเมืองเซนได ในจังหวัดมิยะงิ สำนักข่าวเกียวโดรายงานเพิ่มเติมว่า มีคลื่นสึนามิความสูง 7 เมตร ซัดเข้าใส่เมืองฟุกุชิมะ ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะฮอนชูเช่นกัน
       ล่าสุด ทางการอินโดนีเซียประกาศเตือนภัยสึนามิแล้ว โดยศูนย์เตือนภัยสึนามิสหรัฐฯ ออกประกาศเตือนในขณะนี้ให้เมืองชายฝั่งแปซิฟิก ทั้งออสเตรเลีย และภูมิภาคอเมริกาใต้ เตรียมพร้อมรับมือคลื่นยักษ์สึนามิ
       สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมล่าสุดอยู่ 3 ราย รายหนึ่งเป็นชายวัย 67 ปีถูกกำแพงถล่มทับ อีกรายเป็นหญิงชรา ซึ่งพลัดตกจากหลังคา ขณะปีนหนีน้ำท่วมบ้าน ทั้งสองอยู่ในพื้นที่รอบนอกของกรุงโตเกียว ส่วนรายที่ 3 ยังไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติม
       ด้าน ประธานาธิบดีดมิทรี เมดเวเดฟ ผู้นำรัสเซีย ได้เสนอความช่วยเหลือญี่ปุ่น ขณะที่เกิดคลื่นสึนามิบริเวณหมู่เกาะคูริล พื้นที่พิพาทระหว่างญี่ปุ่น-รัสเซีย โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา รัสเซียได้ประกาศเตือนภัยสึนามิบริเวณหมู่เกาะคูริล ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของรัสเซีย หรือ ทางเหนือของญี่ปุ่น เจ้าหน้าที่ได้อพยพผู้คนจำนวน 11,000 คนออกจากพื้นที่พิพาทดังกล่าว คลื่นสึนามิลูกแรกไปถึงหมู่เกาะคูริลแล้ว แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหาย

ที่มา ผู้จัดการออนไลน์

เหมาะสมหรือไม่? 'แบงค์แคลช' ทวิตล้อภัยพิบัติญี่ปุ่น

Pic_155218

คนวิจารณ์แซด! ถึงพฤติกรรมนักร้องดัง "แบงค์ วงแคลช" ว่า "เหมาะสมหรือไม่" หลังโพสต์ข้อความบนทวิตเตอร์ส่วนตัว ล้อเลียนเหตุแผ่นดินไหว-สึนามิที่ประเทศญี่ปุ่น...

เมื่อวันที่ 11 มี.ค. ได้เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด 8.9 ที่บริเวณเมืองเซนได จ.มิยากิ เกาะฮอนชู ประเทศญี่ปุ่น ห่างจากรุงโตเกียว 400 กม. และได้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิขนาด 6-10 เมตร ซัดถล่มราบเป็นหน้ากลอง ตัดขาดการคมนาคม และการสื่อสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 19 ราย บาดเจ็บกว่า 30 ราย และสูญหายอีกราว 10 ราย ขณะที่ทางการญี่ปุ่น และประเทศเพื่อนบ้านต่างเร่งให้ความช่วยเหลือ ส่งกำลังใจ และร่วมเกาะติดสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

แต่ได้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึง นักร้องดัง แบงค์ วงแคลช ถึงการกระทำที่ไม่เหมาะสม ด้วยการโพสต์ข้อความบนทวิตเตอร์ส่วนตัว ซึ่งทันทีที่เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว หนุ่มแบงค์ได้โพสต์ข้อความว่า "ดูภาพข่าวแผ่นดินไหวกับสึนามิที่ญี่ปุ่น 8.9 ริคเตอร์แล้วยังกับดูหนัง....น่าสพรึง!!" แต่หลังจากนั้นก็ตามด้วยข้อความที่ไม่เหมาะสม ทั้ง "ทางการญี่ปุ่นกล่าวตอนนี้หงอคงผู้เฒ่าเต่า อุลตร้าแมนนินจาฮาโตริและโดเรมอนได้ประชุมข้อตกลงร่วมกันเพื่อความมั่นคง แห่งชาติญี่ปุ่นเรียบร้อยแล้ว.", "อิคคิวซังประกาศออกโปรดสัตว์ทุกพื้นที่ที่ประสบภัยทั่วญี่ปุ่น.....", "กลุ่มอัลกออีดะออกโรงปัดไม่มีส่วนใน เหตุการณ์ครั้งนี้เผยต้นตอมาจากก็อตซิล่าตดแตกระหว่างเดินทางใต้น่านนำ้ ญี่ปุ่นห่างจากเมืองเซ็นได10km" และทิ้งท้ายที่ "ประเทศที่ผมรักที่สุดในโลกรองจากบ้านเรากำลังแย่.....พระเจ้าคุ้มครอง...เจแปน"

นอกจากนี้ จากเหตุการณ์ดังกล่าว ได้มีเพื่อนนักแสดงร่วมวงการ อาทิ เต๋อ-ฉันทวิชช์ ธนะเสวี นักแสดงชื่อดังจากภาพยนตร์ กวนมึนโฮ, โต้ง-บรรจง ปิสัญธนะกูล ผู้กำกับภาพยนตร์, ราจิต แสงชูโต, หม่อมเอ็กซ์ และดิ๊บ บอยสเก๊าท์ ซึ่งเดินทางไปทำงานที่ประเทศญี่ปุ่น กำลังเผชิญเหตุแผ่นดินไหวเช่นกัน ซึ่ง เต๋อ และโต้งได้รับการติดต่อแล้ว ทั้งคู่ปลอดภัยดี ส่วนหม่อมเอ็กซ์ และดิ๊บ บอยสเก๊าท์ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ได้รับการเปิดเผยจากหม่อมเหยินว่า ยังไม่สามารถติดต่อได้ เช่นเดียวกับราจิต ที่ยังไม่สามารถติดต่อได้.

ที่มา ไทยรัฐออนไลน์

3อภิมหาเศรษฐีไทยติดอันดับโลก ยังคนหน้าเดิม'ธนินท์-เฉลียว-เจริญ'

ฟอร์บส์/ASTVผู้จัดการรายวัน - ในรายชื่ออภิมหาเศรษฐีทั่วโลกที่มีทรัพย์สินความมั่งคั่งตั้งแต่ 1,000 ล้านดอลลาร์ขึ้นไป (Billionaire) ประจำปีนี้ ตามการจัดอันดับของนิตยสารฟอร์บส์ และนำออกเผยแพร่เมื่อวันพุธ(9)ปรากฏว่ามีคนไทยอยู่ 3 คน ได้แก่ 

อันดับ 152 ธนินท์ เจียรวนนท์ และครอบครัว ทรัพย์สิน: $6,500ล. ธุรกิจหลากหลาย
       ธนันท์ วัย 71 ปี เป็นผู้ดูแลกลุ่มเครือข่ายธุรกิจเจริญโภคภัณฑ์ ซึ่งก่อตั้งขึ้นโดยบิดาของเขา และในตอนแรกๆ ยังเป็นกิจการนำเข้าเมล็ดพันธุ์พืชรายเล็กๆ ในกรุงเทพฯ สำหรับรอบปีที่ผ่านมา หุ้นของ 3 กิจการซึ่งเครือเจริญโภคภัณฑ์ถือหุ้นใหญ่ที่สุด อันได้แก่ ซีพี ออลล์ ผู้ดำเนินงานร้านเซเว่นอีเลฟเว่น, เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (ซีพีเอฟ), และ พีที เจริญโภคภัณฑ์ ต่างก็มีราคาเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว โดยที่ ซีพี ออลล์นั้น สามารถทำผลกำไรได้สูงขึ้นมากและขยายกิจการอย่างประสบความสำเร็จ ส่วนอีก 2 บริษัทที่เป็นกิจการด้านอาหารนั้น ได้แรงอุปสงค์จากจีน ตลอดจนสามารถขายอาหารที่มีอัตราผลกำไรสูง นอกจากนั้น เครือธุรกิจนี้ยังเป็นเจ้าของบริษัทผู้ดำเนินการโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ อันดับ 3 ของไทย ซึ่งเพิ่งเข้าเทคโอวเอร์กิจการในประเทศไทยของ ฮัทชิสัน เทเลคอม
       ครอบครัวนี้บริจาคเงินเพื่อการกุศลทั้งในรูปของการบูรณะปฏิสังขรณ์ วัดวาอารามในประเทศไทย, อุปถัมภ์โรงเรียนและสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า
       ทรัพย์สมบัติของพี่ชายน้องชาย 3 คนของเขา ซึ่งฟอร์บส์เชื่อว่าต่างมีฐานะอยู่ในระดับอภิมหาเศรษฐีพันล้านดอลลาร์ ได้นำมาคำนวณรวมกับมูลค่าทรัพย์สินโดยรวมของธนินท์
อันดับ 208 เฉลียว อยู่วิทยา ทรัพย์สิน: $5,000ล. กิจการหลัก: เครื่องดื่มกระทิงแดง
       เฉลียวซึ่งปัจจุบันมีอายุ 79 ปี เป็นผู้ก่อตั้ง ทีซี ฟาร์มาซูติคอลส์ ผู้ผลิตเครื่องดื่มชูกำลังของไทย เมื่อ 2 ทศวรรษก่อน เขาร่วมมือกับ ดีทริช มาเตชิตซ์ ชาวออสเตรีย ในการสร้างเครื่องดื่มชูกำลัง “เรด บูล” ขึ้นมา โดยที่เฉลียวลงขันด้วยสูตรเครื่องดื่ม ขณะที่หุ้นส่วนชาวออสเตรียของเขาดำเนินงานด้านการตลาด เวลานี้ เรด บูล ซึ่งมียอดขายปีละ 5,000 ล้านดอลลาร์ วางแผนการที่จะขยายตลาดในจีนในปีนี้ หุ้นส่วนแต่ละฝ่ายต่างถือหุ้นในบริษัทฝ่ายละ 49% และเฉลิม อยู่วิทยา บุตรชายของเฉลียว ผู้เป็นเจ้าของ สยาม ไวเนอรี่ หนึ่งในบริษัทผู้ผลิตไวน์ชั้นนำของเอเชีย เป็นผู้ถือหุ้นอีก 2% ที่เหลือ ครอบครัวนี้ยังได้เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในโรงพยาบาลปิยะเวท ซึ่งเป็นกิจการที่อยู่นอกตลาดหุ้น
อันดับ 247 เจริญ สิริวัฒนภักดี ทรัพย์สิน: $4,300ล. ธุรกิจหลัก: เครื่องดื่ม
       เจริญที่เวลานี้อยู่ในวัย 66 ปี เป็นบุตรของผู้ค้าเร่ตามถนนในกรุงเทพฯ เขาสั่งสมความมั่งคั่งของเขาด้วยการจำหน่ายเบียร์และสุราราคาไม่แพง เขาเป็นผู้ควบคุมกิจการ ไทยเบฟ บริษัทผู้ผลิตเบียร์และสุรารายใหญ่ที่สุดของไทย ซึ่งมีผลิตภัณฑ์ที่รู้จักกันดีที่สุดคือ เบียร์ช้าง เขานำบริษัทนี้ไปจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ในปี 2006 หลังจากที่กลุ่มผู้ประท้วงชาวพุทธขัดขวางไม่ให้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลัก ทรัพย์แห่งประเทศไทย บริษัท ทีซีซี แลนด์ ของเขาที่เป็นบริษัทนอกตลาดหุ้น เป็นเจ้าของ พันธุ์ทิพย์พลาซา ศูนย์การค้าด้านเทคโนโลยีชื่อดังในกรุงเทพฯ, โรงแรม โฮเท็ล พลาซา แอททินี ในแมนแฮตตัน นอกจากนั้นยังเป็นเจ้าของโรงแรมอื่นๆ ทั้งในเอเชีย, สหรัฐฯ, และออสเตรเลีย ตลอดจนเป็นเจ้าของอาคารที่พักอาศัย, อาคารด้านการพาณิชย์, และอาคารด้านการค้าปลีก ทั้งในสิงคโปร์และประเทศไทย เมื่อเร็วๆ นี้ ได้เข้าร่วมประมูลเพื่อซื้อกิจการในไทยของ คาร์ฟูส์ เครือข่ายค้าปลีกสัญชาติฝรั่งเศส ทว่าไม่ประสบความสำเร็จ
**คนหน้าเดิมแต่อันดับสับเปลี่ยน**
       เมื่อเปรียบเทียบกับกับอันดับอภิมหาเศรษฐีพันล้านดอลลาร์ของโลก ประจำปีที่แล้ว ซึ่งนิตยสารฟอร์บนำออกมาเผยแพร่ในวันที่ 10 มีนาคม 2553 และ 40 อันดับมหาเศรษฐีในประเทศไทย ซึ่งฟอร์บส์เป็นผู้จัดทำเช่นเดียวกัน และนำออกเผยแพร่ในวันที่ 2 กันยายน 2553 ปรากฏว่า ทั้งนายธนินท์, นายเฉลียว, และนายเจริญ ติดอยู่ใน 3 อันดับแรกของการจัดอันดับทั้งสองครั้งนั้นเช่นกัน ทว่า ตำแหน่งมีการเปลี่ยนแปลงไป
       กล่าวคือ ในอันดับอภิมหาเศรษฐีพันล้านดอลลาร์ของโลกปีที่แล้ว นายเฉลียวติดอันดับสูงที่สุด คือ ที่ 208 มีทรัพย์สิน 4,100 ล้านดอลลาร์ ต่อด้วยนายเจริญ อยู่ในอันดับ 342 ด้วยความมั่งคั่ง 2,900 ล้านดอลลาร์ แล้วจึงเป็นนายธนินท์ อยู่ในอันดับ 463 มีทรัพย์สิน 2,100 ล้านดอลลาร์
       แต่พอถึงเดือนกันยายน ในการจัดอันดับมหาเศรษฐีในประเทศไทยของฟอร์บส์ นายธนินท์ก้าวขึ้นมาเป็นอันดับ 1 แล้ว โดยมีทรัพย์สิน 7,000 ล้านดอลลาร์ ขณะที่นายวิทยา อยู่อันดับ 2 มีความร่ำรวยระดับ 4,200 ล้านดอลลาร์ และนายเจริญ อยู่ที่ 3 มีความมั่งคั่ง 4,150 ล้านดอลลาร์

ที่มา ผู้จัดการออนไลน์

'ภูริ' เห็นร้องอู้หู!!ชอบใจ 'แอน' ถ่ายทูพีช

Pic_154689

รักกลับมาหวานชื่นมื่นอีกครั้ง สาว แอน-อลิชา ไล่สัตรูไกล เลยได้ฤกษ์สลัดผ้าถ่ายชุดว่ายน้ำ งานนี้ต้องถาม ภูริ หิรัญพฤกษ์ หวานใจ ว่าดูแล้วเป็นไงบ้าง? "ก็ดูสวยงามดีนะ ดูเป็นผู้ใหญ่กว่าคราวที่แล้ว" มีท่าฉีกทุเรียนด้วย? "ยังไม่ได้เห็นเลย" กระแสค่อนข้างแรง? "ก็เป็นการตัดสินใจของเค้า ถ้าเค้าแฮปปี้ก็โอเค" จะไปหาดูมั้ย? "ก็จะไปดู แต่ตอนนี้เห็นว่าขายหมดแผงหาซื้อไม่ได้ เค้ามาโม้ให้ฟัง" ยังไม่ซื้อไว้เหรอ? "จะไปดูของเค้า ตอนนี้ซ้อมละครเวทีทุกวันเลยไม่มีเวลา" คิดว่าเค้าจะเซ็กซี่มากมั้ย? "ก็คงเซ็กซี่ ได้เห็นตอนเค้าไปถ่าย ตอนนั้นเป็นคนขับรถไปให้ ไปเช้าเย็นกลับ ก็โอเคนะ" มีห้ามหรือมีลิมิต มั้ย? "อยู่ที่ตัวเค้ามากกว่า เค้าเป็นผู้ใหญ่แล้ว เค้าโอเคเราก็โอเค ไม่ได้ห้าม" พักหลังเค้าก็เซ็กซี่ขึ้น เราว่าอะไรมั้ย "คุณแอนเค้าก็มีอายุถึงประมาณนึงแล้ว (หัวเราะ) ก็ควรจะเซ็กซี่บ้าง ไม่ใช่เด็กๆที่จะต้องรักนวลสงวนตัวมาก เค้าโตเป็นผู้ใหญ่มีดุลพินิจในการตัดสินใจ" ไม่หวงใช่มั้ย? "ไม่หวง" โชว์นิดโชว์หน่อยจะได้เซ็กซี่? "อะไรอย่างนั้น จะได้ดูแล้วอู้หูเซ็กซี่จัง" ถ่ายคู่กันล่ะจะมีมั้ย? "คู่กันคงไม่มีแล้วมั้ง คงทำครั้งเดียว คิดว่าเป็นครั้งหนึ่งในชีวิต เป็นประสบการณ์ ผมก็ไม่ใช่นายแบบ ไม่ใช่แนว ผมชอบแสดงมากกว่า".

ที่มา ไทยรัฐออนไลน์

ชาวบ้านฉงน!! ปลาหลายล้านตัวเกยตื้นหมู่ปริศนาในแคลิฟอร์เนีย

 

เอเอฟพี - ชาวประมงแคลิฟอร์เนีย ต่างรู้สึกฉงนหลังพบปลาแอนโชวี หลายล้านตัวลอยมาเกยตื้นตายหมู่ ณ ท่าเรือแห่งหนึ่ง ทางใต้ของลอสแองเจลิส เมื่อวันอังคาร (8)
       ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า ปลาเหล่านี้ซึ่งถูกพบ ณ ท่าเรือบนชายหาดเรดอนโด อาจเกิดจากสภาพไร้ออกซิเจนในท้องน้ำ สืบเนื่องจากสาหร่าย ขณะที่ทางชาวบ้านสงสัยว่าลมกระโชกแรงเมื่อคืนที่ผ่านมาอาจซัดปลาลอยเข้าไป ยังจุดอับของท่าเรืออันเป็นบริเวณที่มีออกซิเจนน้อย

 

       “มันก็เหมือนสิ่งที่เกิดขึ้นกับปลาทองยามที่คุณไม่ได้ถ่ายน้ำในตู้ กระจกให้มันนั่นแหละ” บิลล์ วอร์คแมน เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นบอกกับหนังสือพิมพ์ลอสแองเจลิส ไทม์ส
       “เราไม่พบเห็นสัญญาณของสารพิษใดๆ ที่อาจเป็นต้นตอของการตายของมันและข้อประเมินเบื้องต้นของเราคือสภาพที่ไร้ ออกซิเจน” เขากล่าว พร้อมระบุว่า “ไม่พบเหตุน้ำมันหรือสารพิษใดๆ ที่รั่วไหลลงสู่ทะเลแถบนี้”

ที่มา ผู้จัดการออนไลน์

‘กัดดาฟี’ได้ชนเผ่า'ทัวเร็ก'เป็นกำลังกองหนุน

Fly me a Tuareg on time
By Pepe Escobar
       07/03/2011
ในสภาพที่ชนเผ่าแทบทั้งหมดของลิเบีย ต่างสมัครสมานสามัคคีกันต่อต้านมูฮัมมาร์ กัดดาฟี จึงมีรายงานข่าวว่า แอลจีเรียกำลังแสดงบทบาทในการช่วยเหลือขนเอาทหารรับจ้างจาก ไนเจอร์ และ ชาด ให้มาอยู่ทางฝ่ายเขา นอกจากนั้น จากการที่กัดดาฟีได้ทำการอุดหนุนจุนเจือการก่อกบฎของชาวทัวเร็กมานมนานหลาย สิบปีแล้ว บวกกับมนตร์เสน่ห์อันดึงดูดใจของเงินดอลลาร์ ในเวลานี้ชนเผ่าเร่ร่อนเหล่านี้จึงดูเหมือนกำลังยกขบวนเดินทางกันมาตามเส้น ทางบกอันสุดโหดเพื่อช่วยเหลือเขาอีกแรงหนึ่ง ทั้งนี้ภายใต้การดำเนินการของอดีตหัวหน้ากบฎที่บัดนี้พำนักอยู่ในลิเบีย
       อำนาจรัฐในกรุงตริโปลีฝ่ายหนึ่ง และรัฐบาลคู่ขนานที่จัดตั้งกันขึ้นมาโดยอิงอยู่กับชนเผ่า บวกด้วย “กองกำลังติดอาวุธท้องถิ่นพิเศษ” (irregular militias) อีกฝ่ายหนึ่ง กำลังอยู่ในสภาพของการยันกัน ยังไม่ใช่แปรสภาพกลายเป็นสงครามกลางเมืองแล้ว แต่นี่ก็ทำให้การระบุตัวผู้เล่นสำคัญๆ ในลิเบียเป็นไปด้วยความลำบากยากเย็นมากขึ้นเรื่อยๆ
       ถนนสายยาวเหยียดพาดผ่านทะเลทรายจากเมืองเบงกาซี (Benghazi) ไปยังกรุงตริโปลี สำหรับฝ่ายต่อต้านกัดดาฟีแล้ว มันเป็นเสมือนสัญลักษณ์รูปธรรมของการขยับขยายจาก “การลุกฮือ” ไปสู่ “ชัยชนะ” ในเส้นทางอันยาวไกลราวๆ 1,000 กิโลเมตรนี้ มีจุดพักกลางทางที่สำคัญยิ่งยวด คือ เมืองซีระเตะห์ (Sirte) ซึ่งเป็นบ้านเกิดของมูอัมมาร์ กัดดาฟี ถนนสายนี้คือถนนสายยาวเหยียดอย่างแน่นอน เว้นแต่จะมีอะไรบางอย่างบังเกิดขึ้นในสมรภูมิสุดท้ายในตริโปลี อย่างไรก็ดี เวลานี้ไม่มีหลักฐานใดๆ เลยว่ากัดดาฟีกำลังจะยอมรับยุทธศาสตร์ตะวันออกกลางแบรนด์ใหม่ของคณะรัฐบาลบา รัค โอบามา ยุทธศาสตร์แบรนด์ที่ควรเรียกชื่อว่า “ระบอบปกครองเดิมแต่ปรับแต่งเปลี่ยนโฉมเสียหน่อย” (regime alteration)
       ทีนี้ลองมาสำรวจสนามรบกัน ชนเผ่าต่างๆ ในแคว้นไซเรไนซา (Cyrenaica) หรือภาคตะวันออกของลิเบีย มักเป็น “ฝันร้ายทางยุทธศาสตร์อันดับหนึ่ง” ของกัดดาฟีเสมอมา ยิ่งในตอนนี้ด้วยแล้ว ระบบการคัดเลือกผู้นำชนเผ่าในลักษณะเป็นกโลบายมุ่งกำจัดลดทอนปรปักษ์ (co-option of tribal leaders) ซึ่งกัดดาฟีได้เคยนำออกมาใช้อย่างฉาวโฉ่ ย่อมกลายเป็นประวัติศาสตร์ไปเรียบร้อย
       เขายังอาจจะสามารถนับบางชนเผ่าทางภาคตะวันตกและภาคใต้ว่ายืนอยู่ข้าง เดียวกับเขา ซึ่งในจำนวนนี้รวมถึงเผ่าของเขาเอง ตลอดจนเผ่ามากอริฮอ (Magariha) ที่เป็นเผ่าของ อับเดลเบเซต อาลี โมเหม็ด อัล เมกรอฮี (Abdelbeset Ali Mohmed al Megrahi) มือวางระเบิดเครื่องบินโดยสารของสายการบินแพนแอม ที่ไประเบิดเหนือหมู่บ้านล็อกเคอบี (Lockerbie) ในสกอตแลนด์ ทว่าชนเผ่าส่วนใหญ่ (แม้จะไม่ใช่ทั้งหมดทุกเผ่า) ต่างยังคงต่อต้านระบอบปกครองของเขา รวมทั้งชนเผ่าที่มีความเข้มแข็งที่สุดยิ่งกว่าเผ่าอื่นๆ อย่างเช่น วอร์ฟัลละห์ (Warfallah) ชนเผ่าที่มีอิทธิพลสูงในกองทัพลิเบีย, ซอวิยะ (Zawiya) ซึ่งปักหลักอยู่ทางภาคตะวันออกที่อุดมด้วยน้ำมัน, บานี วาลิด (Bani Walid) ชนเผ่าที่ยุติไม่ให้ความร่วมมือกับพวกจ้าหน้าที่ความมั่นคงไปแล้ว, และชนเผ่า ซินตัน (Zintan) ซึ่งเมื่อก่อนเคยจับมือเป็นพันธมิตรกับเผ่าของกัดดาฟี
       ถ้ากัดดาฟีล้มครืนลงไปเมื่อใด ก็แทบจะเป็นเรื่องแน่นอนแล้วว่า รัฐบาลชั่วคราวของลิเบียที่จะเกิดขึ้นมาแทนที่นั้น จะประกอบไปด้วยพวกผู้นำชนเผ่าต่างๆ ผสมผสานกัน เราอาจคาดหมายต่อไปได้ว่า พวกที่อยู่ในแถบนครหลวง (Tripolitania) ซึ่งมีการพัฒนามากกว่า จะเกิดการปะทะขัดแย้งกับพวกชาวแคว้นไซเรนาซา ซึ่งถูกทอดทิ้งละเลยมานมนานอีกคำรบหนึ่ง อันที่จริงชนเผ่าต่างๆ ในลิเบียก็ได้ต่อสู้ทำศึกสงครามกันเองมาหลายร้อยปีแล้ว ทำนองเดียวกับในอัฟกานิสถาน เพียงแต่ว่าในเวลานี้สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ ชนเผ่าส่วนใหญ่กำลังสามัคคีกันเพื่อต่อต้านศัตรูร่วมตัวเดียวกัน นั่นคือกัดดาฟี ผู้ประกาศตนเป็น “จอมราชันย์” (king of kings) แห่งทวีปแอฟริกา
**สมรภูมิแอลจีเรีย**
       ฝ่ายทหารในแอลจีเรียกำลังเฝ้าติดตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในลิเบีย อย่างกระชั้นชิดทุกฝีก้าว เรื่องนี้ไม่น่าประหลาดใจอะไร เพราะถ้าหากกัดดาฟีล้มครืน แอลจีเรียก็น่าจะเป็นรายต่อไป ประเทศทั้งสองต่างก็เป็นมหาอำนาจทางด้านน้ำมัน/แก๊ส ทว่าความมั่งคั่งร่ำรวยที่ได้มาไม่ได้ถูกถ่ายโอนลงไปให้แก่ประชากรส่วนใหญ่ ของประเทศ และประชากรเหล่านี้กำลังรู้สึกสิ้นหวังมากขึ้นเรื่อยๆ
       มีข่าวลือแพร่กระจายไปทั่วว่า แอลจีเรียเป็นรัฐบาลหนึ่งเดียวในโลกเวลานี้ที่กำลังปฏิบัติการสนับสนุนกัดดา ฟี (เซอร์เบียก็เป็นอีกกรณีหนึ่ง ทว่าอยู่ในสภาพการณ์ที่แตกต่างออกไป กล่าวคือเซอร์เบียนิ่งเงียบไม่แสดงความเห็นใดๆ ออกมา เนื่องจากผลประโยชน์ด้านข้อตกลงจัดซื้อจัดจ้างทั้งทางการทหารและการก่อสร้าง ที่เซอร์เบียมีอยู่กับกัดดาฟี) จวบจนถึงเวลานี้ตัวอย่างที่เด่นชัดที่สุดในเรื่องที่กรุงแอลเจียร์กำลังให้ ความช่วยเหลือโดยตรงต่อกรุงตริโปลีนั้น ปรากฏอยู่ในรายงานของ “แอลจีเรีย วอตช์” (Algeria Watch) อันเป็นกลุ่มสิทธิมนุษยชนแอลจีเรียที่ลี้ภัยอยู่นอกประเทศ กลุ่มนี้ยืนยันว่ากรุงแอลเจียร์กำลังอำนวยความสะดวกในเรื่องการเดินทางโดย ทางอากาศไปจนถึงลิเบีย ให้แก่พวกทหารรับจ้างจาก ไนเจอร์ และ ชาด ในอดีตที่ผ่านมาแอลจีเรียก็เคยทำสิ่งเดียวกันนี้มาแล้ว ได้แก่ การขนกองทหารไปยังโซมาเลีย เพื่อช่วยเหลือรัฐบาลหุ่นที่สหรัฐฯหนุนหลังอยู่ ในการต่อสู้กับพวกชนเผ่าในโซมาลีที่ก่อกบฎและถูกตีตราว่าเป็น “ผู้ก่อการร้าย”
       ข่าวที่น่ารังเกียจยิ่งกว่านี้อีก ทว่ายังคงไม่ได้รับการยืนยัน ก็คือ เรื่องที่ว่า พ.อ.กาเมล บูซกาเอีย (Colonel Djamel Bouzghaia) ซึ่งเป็นที่ปรึกษาด้านความมั่นคงคนสำคัญของประธานาธิบดี อับเดลาซิซ บูเตฟลิกา (Abdelaziz Bouteflika) แห่งแอลจีเรีย อาจจะได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ดำเนินการลักลอบนำเอากองกำลังความมั่นคงส่วน ตัวของประธานาธิบดีซิเน เอล อาบิดิเน เบน อาลี (Zine el-Abidine Ben Ali) แห่งตูนิเซียที่ถูกประชาชนลุกฮือโค่นล้มไปเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ตลอดจนกองกำลังอาวุธรีพับลิกันการ์ด (Republican Guard) ของตูนิเซีย เข้าไปยังลิเบีย ในจำนวนนักรบอันน่าสะอิดสะเอียนประเภทต่างๆ เหล่านี้ มีอยู่พวกหนึ่งที่เป็นพวกนักแม่นปืน ซึ่งได้สังหารผู้ชุมนุมเดินขบวนชาวตูนิเซียในเมืองใหญ่ต่างๆ 3 เมือง ตลอดจนในเวลานี้ก็อาจจะกำลังเข่นฆ่าพลเรือนชาวลิเบียอยู่ก็เป็นได้
** ‘ทัวเร็ก’คือผู้กู้ชีวิต**
       ถ้าหากกัดดาฟีสามารถพึ่งพาอาศัยพวกนักแม่นปืนมือสังหารชาวตูนิเซียมา ทำงานสกปรกให้เขาได้ มันจะต้องพูดอะไรกันอีกเกี่ยวกับชาวทัวเร็ก (Tuareg) ที่เป็นชนเผ่าเร่ร่อนจากดินแดนซาเฮล (Sahel)
       ในอดีตที่ผ่านมา กัดดาฟีมักหาทางเพาะสร้างความปั่นป่วนวุ่นวายขึ้นในหมู่ประเทศเพื่อนบ้านของ เขา และชาวทัวเร็กก็มักถูกใช้เป็นเครื่องมือเพื่อตอบสนองยุทธศาสตร์อันหลงเพ้อ อยู่กับความยิ่งใหญ่ของเขา ในการสร้างชาติ “มหาซาฮารา” (Grand Sahara) ขึ้นรอบๆ ลิเบีย ทั้งนี้โดยที่เขาฉวยใช้ประโยชน์จากความฝันของชาวทัวเร็กที่ปรารถนาจะแบ่งแยก ดินแดนออกมาตั้งประเทศของพวกเขาเอง
       เมื่อสิบปีก่อน บนถนนในเมืองทิมบุกตู (Timbuktu) ประเทศมาลี เพื่อนๆ ชาวทัวเร็กได้จัดแจงให้การศึกษาอบรมแบบลัดสั้นให้แก่ผมในเรื่องเกี่ยวกับการ ก่อกบฎของชาวทัวเร็ก และขบวนการแบ่งแยกดินแดนของชนเผ่านี้ ทั้งนี้ตั้งแต่ต้นทศวรรษ 1970 ชาวทัวเร็กจำนวนมากได้ถูกระดมเข้าไปอยู่ใน “กองทหารอิสลาม” (Islamic Legion) ของกัดดาฟี อันเป็นกองกำลังอาวุธที่จัดตั้งขึ้นโดยใช้เหตุผลข้ออ้างที่ว่าเพื่อทำการ ต่อสู้จัดตั้งรัฐอิสลามที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันขึ้นมาในภาคเหนือของทวีป แอฟริกา โดยที่ในเวลานั้นภูมิภาคซาเฮล-ซาฮาราก็กำลังเผชิญภัยแล้งอย่างต่อเนื่องจน กระทั่งผู้คนมองไม่เห็นหนทางที่จะไปทำมาหากินอะไรอย่างอื่นที่ไหนได้ แต่กองทหารนี้ก็ยืนยงอยู่ได้จนถึงปลายทศวรรษ 1980 จากนั้นจึงถูกยุบทิ้งไป
       กัดดาฟียังได้สนับสนุนให้พวกทัวเร็กก่อการกบฎขึ้นมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน มาลี และ ไนเจอร์ เขาหว่านเงินให้จัดตั้งค่ายทหารขึ้นในเมืองทิมบุกตู, กาโอ (Gao), และ คิดัล (Kidal) ในประเทศมาลี, เปิดสถานกงสุลแห่งหนึ่งในเมืองคิดัล และใช้เงินดอลลาร์จากน้ำมัน (petrodollar) มาหว่านโปรยเสน่ห์ดึงดูดใจ ชาวทัวเร็กจากภาคเหนือของมาลีนั้นมีความเกลียดชังรัฐบาลกลางในกรุงบามาโก อยู่แล้ว อันที่จริงเห็นได้ชัดเจนว่าชาวทัวเร็กที่เป็นชนเผ่าเร่ร่อนไม่ไว้วางใจ รัฐบาลกลางไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบใดทั้งสิ้น สิ่งที่พวกเขาต้องการก็คืออำนาจในการปกครองตนเอง หรืออย่างน้อยที่สุดก็ต้องมีการลงทุนเพิ่มมากขึ้นในด้านสุขอนามัย, สาธารณสุข, และการศึกษาตามตำบลเมืองน้อยและหมู่บ้านแถบทะเลทรายที่พวกเขาพำนักอาศัย
       กรุงบามาโก และพวกกบฎทัวเร็ก ได้ลงนามทำข้อตกลงกันในท้ายที่สุดเมื่อเดือนกรกฎาคม 2006 ภายใต้การเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยของแอลจีเรีย ผลของข้อตกลงนี้ในทางทฤษฎีแล้วจะช่วยสร้างสันติภาพและก่อให้เกิดการพัฒนา ขึ้นในเขตคิดัล พวกกบฎมาวางอาวุธกันอย่างเป็นทางการในเดือนกุมภาพันธ์ 2009 แต่ก็ยังมีผู้นำกบฎคนหนึ่ง คือ อิบรอฮิม อัก บาฮังกา (Ibrahim Ag Bahanga) ที่ไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดเหล่านี้ และไปลี้ภัยอยู่ในลิเบีย
       ในลิเบียก็มีชาวทัวเร็กอาศัยอยู่ในภาคตะวันตกเฉียงใต้ที่เป็นทะเล ทราย ทว่าเวลานี้กำลังมีข่าวแพร่มาจากกรุงบามาโกว่า มีชาวทัวเร็กอย่างน้อยที่สุด 800 คน ซึ่งมาจากมาลี, บูร์กินาฟาโซ, ไนเจอร์, และแอลจีเรีย ได้เข้าร่วมกับกองกำลังอาวุธของกัดดาฟีแล้ว ถ้าหากคุณเป็นหนุ่มๆ ชาวทัวเร็กที่ไม่มีงานทำ คุณจะต้านทานไหวหรือกับข้อเสนอล่อใจที่ประกอบด้วยเงินสด 10,000 ดอลลาร์ ซึ่งจ่ายให้เมื่อเข้าร่วมกับกองกำลัง บวกกับเงินอีกวันละ 1,000 ดอลลาร์สำหรับค่าสู้รบ
       เวลานี้สิ่งที่แตกต่างออกไปจากในอดีตก็คือ กัดดาฟีดูเหมือนไม่เพียงแต่จะสร้างความแตกแยกระหว่างชาวทัวเร็กกับประเทศ ต่างๆ ซึ่งคนเหล่านี้พำนักอาศัยอยู่เท่านั้น หากยังก่อให้เกิดความแตกแยกขึ้นภายในชุมชนชาวทัวเร็กเองอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมาลี, ไนเจอร์, และชาด ก่อนหน้านี้ มีชาวทัวเร็กจำนวนหนึ่งทำงานให้เขาในลิเบียมาหลายปีแล้ว บางคนเป็นสมาชิกของกองทัพลิเบีย พร้อมกับได้สัญชาติลิเบียด้วย แต่ด้วยพลังอันเร้าใจของเงินดอลลาร์จากน้ำมัน เวลานี้จึงมีคนใหม่ๆ เข้าไปรับใช้เขา ถึงแม้มันจะก่อให้เกิดความรู้สึกสิ้นหวังขึ้นในชุมชนชาวทัวเร็กจำนวนมาก
       ดังที่ อับดู ซัลลัม อัก อัสซาลัต (Abdou Sallam Ag Assalat) ประธานของสมัชชาภูมิภาคในคิดัล บอกกับสำนักข่าวเอเอฟพี ว่า “พวกคนหนุ่มๆ เหล่านี้กำลังเดินทางไปยังลิเบียกันเป็นจำนวนมาก … เจ้าหน้าที่ระดับภูมิภาคกำลังพยายามตักเตือนเกลี้ยกล่อมพวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกที่เคยเป็นกบฎมาก่อน ไม่ให้เดินทางไป แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายเอาเลย เพราะสำหรับพวกเขาแล้ว มันมีทั้งเงินดอลลาร์และอาวุธที่จะให้ไปหยิบฉวย … วันหนึ่งพวกเขาจะต้องกลับมาพร้อมด้วยอาวุธเหล่านี้แหละเพื่อมาสั่นคลอน เสถียรภาพของเขตซาเฮล”
       พวกทัวเร็กเหล่านี้เดินทางออกจากภาคเหนือของมาลี ข้ามเข้าไปยังภาคใต้ของแอลจีเรีย จากนั้นก็ข้ามเข้าสู่ภาคใต้ของลิเบีย มันเป็นการเดินทางอันยากลำบากที่ใช้เวลา 48 ชั่วโมง ปกติแล้วมักไปกันเป็นขบวนใหญ่ๆ แน่นอนทีเดียวว่า “เส้นพรมแดน” ในเขตทะเลทรายเหล่านี้เป็นเพียงภาพมายาที่ไร้ความหมายในทางเป็นจริง ตามรายงานของสื่อแอลจีเรีย การปฏิบัติการคราวนี้อยู่ในการบังคับบัญชาของอดีตผู้นำชาวทัวเร็กจากมาลีผู้ หนึ่ง ซึ่งเวลานี้พำนักอยู่ในลิเบีย ทั้งนี้บุคคลผู้นี้น่าจะได้แก่ อิบรอฮิม อัก บาฮังกา นั่นเอง เราสามารถคาดหมายได้ว่า ถ้าหากในเวลาต่อไปการเดินทางข้ามทะเลทรายเช่นนี้มีบางช่วงบางตอนเป็นการเดิน ทางโดยทางอากาศ ไม่ว่าจะเป็นช่วงจากแอลจีเรียหรือจากชาดก็ตามที นั่นย่อมหมายถึงว่าชาวทัวเร็กเหล่านี้ได้พบกับคนในฝ่ายความมั่นคงของ แอลจีเรีย ที่มาทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยความสะดวกในด้านการเดินทางเข้าให้แล้ว
       โอกซานา (Oksana) หนึ่งในพยาบาลชาวยูเครนซึ่งคอยดูแลกัดดาฟีอยู่ บอกว่ากัดดาฟีเป็น “นักจิตวิทยาผู้ยิ่งใหญ่” แต่อันที่จริงเขายังเป็นนักสังคมวิทยาชั้นดีอีกด้วย เพราะเขามองเห็นและก็สามารถทำประโยชน์ได้อย่างมหาศาล จากข้อเท็จจริงที่ว่าเมื่อพินิจพิจารณาจากมุมมองทางด้านสังคมวิทยา, ทางด้านการเมือง, และทางด้านการตัดสินคดีความแล้ว ในเขตซาเฮล-ซาฮารานั้น ไม่มีความเป็นรัฐชาติจริงๆ หรอก สิ่งที่กำลังบังเกิดขึ้นมาในตอนนี้ ย่อมไม่ใช่เรื่องที่จะมาเที่ยวประณามชาวทัวเร็กเลย ในเมื่อทั้งแอลจีเรียและลิเบีย ต่างก็ไม่เคยทำอะไรที่อย่างน้อยที่สุดอาจจะช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอเสียหาย ไปเนื่องจากลัทธิล่าอาณานิคม (เพราะลัทธิอาณานิคมนี่เอง ที่ทำให้ชนเผ่าเร่ร่อนอย่างชาวทัวเร็กต้องกระจัดกระจายกลายเป็นประชากรใน ประเทศต่างๆ ถึง 4 ประเทศ) ทั้งนี้ แอลจีเรียมักจะคอยหาผลประโยชน์รวมทั้งคอยกดขี่ชาวทัวเร็กที่ถูกแบ่งแยกออก เป็นเสี่ยงๆ เช่นนี้เสมอมา ขณะที่สำหรับ “จอมราชันย์แห่งทวีปแอฟริกา” อย่างกัดดาฟี สภาพเช่นนี้แหละที่ทำให้เขาสามารถอาศัยชาวทัวเร็กเป็นกองกำลังสำรองของเขา
เปเป เอสโคบาร์ เป็นผู้เขียนหนังสือเรื่อง “Globalistan: How the Globalized World is Dissolving into Liquid War” (สำนักพิมพ์ Nimble Books, ปี 2007) และเรื่อง “Red Zone Blues: a snapshot of Baghdad during the surge” หนังสือเล่มใหม่ของเขาคือเรื่อง “Obama does Globalistan” (สำนักพิมพ์ Nimble Books, ปี 2009) ทั้งนี้สามารถที่จะติดต่อกับเขาได้ที่ pepeasia@yahoo.com

ดาราสาวแข่งโชว์หวิว ในงานสุพรรณหงส์

Pic_153927

เหล่าดาราสาวสวยของวงการบันเทิงไทย พาเหรดมาร่วมโชว์ในงานสุพรรณหงส์ ครั้งที่ 20 ที่พัทยา เล่นเอาแฟนๆ ตะลึงไปตามๆ กัน...


งานนี้เรียกว่าดูฟรีกันอย่างจุใจ สำหรับเต้าเล็กเต้าใหญ่ ตั้งแต่ พาสเจอร์ไรซ์ สเตอร์ริไลต์ ไปจนถึง นมเปรี้ยวโยเกิร์ต อาทิ รุ่นเด็กๆ อย่างใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ยิปโซ สายป่าน และรุ่นบิ๊กไซส์อย่าง ตั๊ก บงกช แคนดี้ เอเวอรี่ ในขณะที่นักแสดงชื่อดังหลายคนร่วมงานอาทิ พลอย เฌอมาลย์ โอเด็ด แจคคามิน

ที่มา ไทยรัฐออนไลน์

ด่วน ! เครื่องบิน “F -16”กองบิน 1 โคราช ตกที่ “ชัยภูมิ”

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ด่วน! เครื่องบินขับไล่ “F -16” กองบิน 1 โคราช ตกที่ จ.ชัยภูมิ พร้อมกัน 2 ลำ ช่วงเช้าวันนี้ที่บริเวณป่าระหว่าง บ.หนองกวาง-บ.วังโพน ต.ท่าหินโงม อ.เมือง เบื้องต้นนักบินทั้ง 2 คน ปลอดภัยสามารถดีดตัวออกจากเครื่องได้ทัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าวันนี้ (14 ก.พ.) เครื่องบินขับไล่ F-16 ฝูงบิน 102 กองบิน 1 กองพลบินที่ 2 กองบัญชาการยุทธทางอากาศ กองทัพอากาศ จ.นครราชสีมา ได้ประสบเหตุตกบริเวณป่าระหว่างบ้านหนองกวาง กับ บ้านวังโพน โดยอยู่ห่างจากหมู่บ้านวังโพน ต.ท่าหินโงม อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ออกไปประมาณ 3 กิโลเมตร (กม.) เบื้องต้นยังไม่ทราบความเสียหาย และยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต

มีรายงานว่า เครื่องบิน F-16 ลำดังกล่าว สัญญาณการติดต่อได้ขาดหายไปจากจอเรดาร์ในเวลาประมาณ 08.00 น. และ เวลาประมาณ 09.00 น. เจ้าหน้าที่ จ.ชัยภูมิ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านวังโพนว่ามีเครื่องบินตกที่บริเวณป่าเขตรอยต่อระหว่าง บ้านหนองกวาง กับ บ้านวังโพน ต.ท่าหินโงม อ.เมือง จ.ชัยภูมิ

เจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กองบิน 1 นครราชสีมา เปิดเผยว่า เครื่องบินที่ประสบอุบัติเหตุตกที่ จ.ชัยภูมิ เป็นเครื่องบินขับไล่ F-16 ขนาด 1 ที่นั่ง ของ กองบิน 1 กองพลบินที่ 2 กองบัญชาการยุทธทางอากาศ กองทัพอากาศ โดยเป็น 1 ใน 21 ลำ ที่เข้าร่วมการฝึกคอบร้าโกล์ ร่วมกับสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้หายไปจากจอเรดาร์เวลาประมาณ 08.30 น. และ ต่อมามาได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ว่า พบซากเครื่องบินที่จุดรอยต่อ ต.ท่าหินโงม อ.เมือง จ.ชัยภูมิ เบื้องต้นทราบว่า นักบินปลอดภัย สามารถดีดตัวออกจากเครื่องบินได้ทัน

ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ชุดหน่วยตรวจสอบส่วนหน้า กองบิน 1 นครราชสีมา กำลังเร่งเดินทางเข้าไปยังจุดที่เกิดเหตุ ซึ่งล่าสุดมีรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 ประสบอุบัติเหตุตกพร้อมกันครั้งนี้จำนวน 2 ลำ และ นักบินทั้ง 2 คน ปลอดภัยสามารถดีดตัวออกจากเครื่องได้ทัน และกำลังได้รับความช่วยเหลือนำตัวออกจากที่เกิดเหตุ

ส่วนรายละเอียดความคืบหน้า จะรายงานให้ทราบต่อไป

ที่มา:ผู้จัดการออนไลน์

มาริโอ้ - ชมพู่ โดย ดิฉัน