ทลายแก๊งตุ๋นคอลเซ็นเตอร์ย่านเมืองทอง-รวบ22ผู้ต้องหาจีน-ไต้หวัน


เมื่อ เวลา 13.00 น.วันที่ 28 มี.ค. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) นายธาริต  เพ็งดิษฐ์  อธิบดีดีเอสไอ  พร้อมด้วยพ.ต.อ.ชาติชาย  เอี่ยมแสง  รองผบก.สส.สตม.  นายไซมอน  โฮ   ตัวแทนสถานทูตไต้หวัน  พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล  ผบ.สำนักกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ  แถลงข่าวผลการจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนและชาวไต้หวัน 22 คน พร้อมของกลางอุปกรณ์ใช้หลอกเหยื่อ คอมพิวเตอร์  โทรศัพท์  ได้ที่บ้านเช่าเลขที่  29/817 โครงการเมืองทองธานี 2 ซ.2 ถนนแจ้งวัฒนะ ต.คลองเกลือ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี

  นายธาริต แถลงว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นการสนธิกำลังร่วมกันระหว่างดีเอสไอและตำรวจตรวจคนเข้า เมือง โดยใช้เวลาสืบสวนนาน 3 เดือน  จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้พร้อมของกลาง  ซึ่งขณะนี้ยอมรับว่าขบวนการดังกล่าวมีการพัฒนาวิธีการโน้มน้าวเหยื่อให้ลง เชื่อ โดยจัดให้มีการอบรมเหมือนเป็นอะคาเดมี เพราะมีการฝึกวิธีพูดและลำดับขั้นตอนการหลอกเหยื่อ  ล่าสุดพบว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์มีการทำงานเป็นเฟรนไซส์ที่เชื่อมโยงเครือข่าย ที่หลอกลวงคนไทยจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ไปตั้งศูนย์หลอกลวงที่ประเทศจีนหรือ ไต้หวัน

  ด้านพ.ต.อ.ชาติชาย  กล่าวว่า  สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 22 คน จะถูกดำเนินคดีพ.ร.บ. คนเข้าเมือง และพ.ร.บ.การทำงานของคนต่างด้าว เนื่องจากการตรวจสอบวีซ่าของผู้ต้องหาทั้งหมดพบว่าใช้วีซ่านักท่องเที่ยว

พ.ต.อ.ทรงศักดิ์  กล่าวว่า  ที่ผ่านมาทางการไทยสามารถจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์เหล่านี้ได้จำนวนมาก แต่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ไทยที่ตั้งศูนย์หลอกคนไทยอยู่ในไต้หวันกลับไม่ถูกจับกุม ได้มากเท่าที่ควร ดังนั้น ตนจะพยายามประสานขอความร่วมมือให้มีการจับกุมดำเนินคดีให้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พบว่าสมาชิกแก๊งคอลเซ็นเตอร์คนไทยที่ไปตั้งศูนย์อยู่ที่จีนและไต้หวัน มักเป็นกลุ่มวัยรุ่นอายุประมาณ 20 ขึ้นไป  ซึ่งเป็นคนจากพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ   ส่วนการดำเนินคดีเข้าเมืองผิดกฎหมายเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอให้แก๊งคอ ลเซ็นเตอร์หวาดกลัวความผิด 

ดังนั้น ดีเอสไออาจพิจารณาแจ้งข้อหาฐานอั้งยี่ ซ่องโจรเพิ่มเติมด้วย  พร้อมกันนี้ขอให้ประชาชนช่วยเป็นผู้เป็นตากับเจ้าหน้าที่หากพบว่าบ้านข้าง เคียงมีชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีนเข้ามาพักอาศัยเป็นกลุ่มใหญ่และเก็บตัวทำงานอยู่ร่วมกันอย่าง เงียบ ๆ สันนิษฐานว่าอาจเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ขอให้แจ้งเบาะแสกับดีเอสไอเพื่อดำเนิน การจับกุมดำเนินคดีด้วย

นายสมชัย  พิชิตสุรกิจ  รองผอ.ฝ่ายด้านบริหารงานทุจริตลูกค้าบุคคล ธ.กสิกรไทย จำกัด มหาชน กล่าวว่า  ปัจจุบันพื้นที่ที่พบว่ามีการเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคลที่รับจ้างเปิดบัญชี ให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่เขตที่มีโรงงานและคนงานอาศัย จำนวนมาก  เช่น  เขตดินแดง กทม.  จ.สมุทรปราการ  ฉะเชิงเทรา   โดยพฤติกรรมคนเหล่านี้จะนำเงินไปเปิดบัญชีเพียง 500 บาท  และถอนออก 300 บาท จากนั้นจะขอขยายวงเงินให้สามารถเบิกได้วันละ 200,000 บาท

กูเกิล เปิด 'Street View' เมืองไทยแล้ว

ภาพบ้านพระอาทิตย์ จากสตรีทวิว

หลังจากเริ่มดำเนินโครงการทำแผนที่ภาพในประเทศไทย ระหว่าง กูเกิล ประเทศไทย และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ซึ่งเริ่มดำเนินงานตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ล่าสุดในเว็บไซต์แผนที่ของกูเกิล ได้เปิดให้ผู้ใช้คนไทยเข้าไปใช้งานบริการ Streetview ได้แล้วเพียงเข้าไปที่เว็บไซต์ http://maps.google.co.th/
       หลักการทำงานเพียงค้นหาแผนที่ไปยังสถานที่ต้องการ และลากสัญลักษณ์รูปคนที่มุมซ้ายบนของแผนที่ ลงมาวางบนจุดที่ต้องการ (พื้นที่ที่ใช้งานได้จะมีเส้นสีน้ำเงินบนแผนที่) หลักจากนั้น ผู้ใช้ก็สามารถเข้าไปเลื่อนดูภาพสถานที่จริงของแผนที่ได้ทันที
       สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม ทางกูเกิล ประเทศไทย ได้เตรียมจัดงานแถลงข่าวร่วมกับทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ในช่วงบ่ายวันนี้ (ศุกร์ 23 มีนาคม 2555) ดังนั้น สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในภายหลัง
       เบื้องต้น หลังการทดลองใช้งานพบว่าทางกูเกิลได้มีการเซ็นเซอร์ทั้งหน้าบุคคล และป้ายทะเบียนรถ ซึ่งปรับเป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก หลังจากเคยโดนฟ้องว่าละเมิดสิทธ์ส่วนบุคคลในต่างประเทศมาแล้ว
Company Relate Link :
Google

ฝรั่งไอริชยันถูกรปภ.BTS ทำร้ายตีหัว-คิ้วแตกเย็บ 10 เข็ม

ครูสอนภาษาชาวไอริช ถูกรปภ.บีทีเอสทำร้ายร่างกาย ขึ้นโรงพักทองหล่อ เพื่อให้ปากคำพนักงานสอบสวน ด้านภรรยาหอบหลักฐานเสื้อเปื้อนเลือด -ลูกโป่ง 4 ใบ ขอความเป็นธรรม รับมีคลิปลงไม้ลงมือกับคู่กรณี เพราะสามีโมโห ถูกฟาดหัวด้วยเครื่องสแกนโลหะ เย็บ 10 เข็ม ผกก.ทองหล่อ ระบุ ปัญหาเกิดจากสื่อสารผิดพลาด ยันต้องรอหลักฐานความเห็นแพทย์และเรียกรปภ.มาสอบปากคำ

 
       วันนี้ (22 มี.ค.) เมื่อเวลา 20.00 น.ที่สน.ทองหล่อ นายจอห์น บีฮัน อายุ 37 ปี ครูสอนภาษาชาวไอร์แลนด์ ซึ่งถูก เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสพร้อมพงษ์ทำร้ายร่างกาย เนื่องจากไม่อนุญาตให้นำลูกโป่งขึ้นรถไฟฟ้า เมื่อวันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.รัฐศักดิ์ รักสลาม ผกก.สน.ทองหล่อ โดยมีนางพัชรมาศ ภู่ศรี ซึ่งเป็นภรรยาหอบหลักฐานเป็นลูกโป่ง จำนวน 4 ใบ ประกาศนียบัตรจบการศึกษาชั้นอนุบาล 3 โรงเรียนอนุบาลปล่งประสิทธิ์ของบุตรสาว เสื้อผ้าเปื้อนเลือดที่สวมใส่ในวันเกิดเหตุ และหลักฐานจำนวนหนึ่งมายืนยันความบริสุทธิ์ด้วย
       นางพัชรมาศ กล่าวกับผู้สื่อข่าวก่อนพาสามีเข้าให้ปากคำว่า ยอมรับวันเกิดเหตุมีปากเสียงกับเจ้าหน้าที่บีทีเอสจริง แต่ไม่ได้ลงมือทำร้ายใครก่อน ส่วนภาพที่ปรากฎในคลิปว่ามีการลงมือลงไม้กับ เจ้าหน้าที่รปภ.สถานีรถไฟฟ้านั้น เป็นภาพหลังจากที่สามีตนถูกตีด้วยเครื่องสแกนโลหะก่อนแล้ว จึงเกิดความโมโห อยากให้สังคมเข้าใจฝ่ายตนด้วย โดยขณะนี้ตำรวจมีหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดของสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส พบว่าสามารถจับภาพ รปภ.หลายคนรุมทำร้ายร่างกายสามีตนบริเวณโซนรอรถไฟฟ้า แต่ภาพดังกล่าวไม่สามารถเปิดเผยได้ ตั้งแต่เกิดเรื่องจนถึงวันนี้ เพิ่งได้รับการติดต่อจากผู้บริหารของบีทีเอส บอกขอโทษและพร้อมเยียวยาสภาพจิตใจให้ครอบครัวโดยเฉพาะลูกสาวที่เห็น เหตุการณ์พ่อถูกทำร้ายตั้งแต่ต้น แต่กลับไม่ได้พูดว่าจะรับผิดชอบเรื่องที่ได้รับบาดเจ็บอย่างไร ทั้งที่สามีถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บ ต้องเย็บที่คิ้ว 4 เข็ม และกลางศีรษะ 6 เข็ม รวมกันถึง 10 เข็ม
       นางพัชรมาศ กล่าวอีกว่า วันนี้ตนพาสามีมาพบ ผกก.สน.ทองหล่อ และให้ปากคำกับ ร.ต.อ.ธนาณุวัฒน์ สิทธิไชย พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.ทองหล่อ ซึ่งเป็นเจ้าของคดีโดยมีการนำประกาศนียบัตรจบการศึกษาของลูกสาวมายืนยัน พร้อมทั้งนำลูกโป่งจำนวน 4 ใบ ที่ไม่ใช่ลูกโป่งแบบอัดแก๊ส มาให้พนักงานสอบสวนดูด้วย เนื่องจากข้อเท็จจริงคือ ทางโรงเรียนไม่ได้ใช้ลูกโป่งที่เป็นอันตรายแบบนั้นมาแจกเด็กๆ โดยหลังเกิดเรื่องสามียังรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะไม่ทราบมาก่อนว่าห้ามนำลูกโป่งขึ้นรถไฟฟ้า ประกอบกับโดยสารมาตั้งแต่ต้นทางขึ้นๆ ลงๆ หลายสถานีก็ไม่ได้ถูก รปภ.ห้ามนำเข้า จนกระทั่งมาถูกขัดขวาง ห้ามนำลูกโปร่ง ที่บริเวณสถานี พร้อมพงษ์ ตรงจุดเกิดเหตุ ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นจะต้องคุยกับพนักงานสอบสวนและหลายๆ ฝ่ายก่อน เพื่อหาข้อสรุปที่ดีที่สุดต่อไป
       ด้าน พ.ต.อ.รัฐศักดิ์ ผกก.สน.ทองหล่อ กล่าวว่า วันนี้ได้นัดหมาย นายจอห์น มาพบเพื่อสอบถามรายละเอียดทั้งหมดตั้งแต่ก่อนขึ้นรถไฟฟ้า โดยจะพิจารณาว่าแต่ละช่วงเวลามีเหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างไร ส่วนหลักฐานจากภาพกล้องวงจรปิดนั้น ตนดูแล้วเห็นว่าต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่คือ ฝ่ายหนึ่งทำหน้าที่พ่อที่ดี ส่วนอีกฝ่าย ก็เป็น รปภ.ต้องการรักษากฎระเบียบเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารรายอื่นๆ แต่เรื่องที่เกิดขึ้น อาจเป็นเพราะมีการสื่อสารผิดพลาดระหว่างทั้งสองฝ่าย ทั้งนี้ขั้นตอนการสอบปากคำของพนักงานสอบสวนยังต้องดำเนินต่อไป ซึ่งต้องพิจารณาที่องค์ประกอบสำคัญ อาทิ อาวุธที่คู่กรณีใช้ จำนวนครั้งที่กระทำ และผลสรุปความเห็นจากแพทย์ รพ.ตำรวจ ผู้ให้การรักษานายจอห์น ซึ่งยังไม่ได้ส่งมา นอกจากนี้ยังต้องรอสอบปากคำนายประสาน ถาวงษ์กลาง อายุ 31 ปี เจ้าหน้าที่รปภ.สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส คู่กรณี ที่ได้ติดต่อให้เข้ามาพบพนักงานสอบสวน เพื่อแจ้งข้อหาหรือดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

รถแก๊สLPG ชนสะพานลุกไหม้ย่าน ถ.พัฒนาการ

เกิดอุบัติเหตุรถ 6 ล้อ บรรทุกแก๊ส LPG พุ่งชนสะพานย่านพัฒนาการ ไฟลุกล่วม เจ้าหน้าที่เร่งสกัดเพลิง แนะผู้ใช้รถหลีกเลี่ยงเส้นทางการจราจร
       วันนี้ (23 มี.ค.) เมื่อเวลา 06.30 น.เกิดอุบัติเหตุ รถ 6 ล้อ บรรทุกแก๊ส LPG ชนิดแคปซูลขนาด 4,000 ลิตร ยี่ห้อมิตซูบิชิ ทะเบียน 75-3816 กรุงเทพมหานคร ของ บริษัทสยามแก๊ส พุ่งชนราวสะพาน บริเวณ ถ.พัฒนาการ 20-22 เพลิงลุกไหม้สูง เจ้าหน้าที่กำลังควบคุมเพลิง เจ้าหน้าที่จราจรปิดการจราจรทั้งเส้นทางขาเข้า-ขาออก ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ระดมฉีดโฟมควบคุมเพลิง เบื้องต้นตรวจสอบมีผู้บาดเจ็บ 1 ราย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพชรเวชเรียบร้อยแล้ว
       สำหรับอุบัติเหตุทำให้การจราจรติดขัด ผู้ใช้รถควรเลี่ยงเส้นทางที่รถแก๊สเกิดเพลิงลุกไหม้ หากจำเป็นให้ไปใช้เส้นพัฒนาการขาเข้า ถึง พัฒนาการ 25 ต้องเลี้ยวขวาไปออกโรคัลโรด หรือกำแพงเพชร 7 แทน ซึ่งตำรวจจราจร สน.คลองตันต้องปิดเส้นทางจราจรที่ถนนพัฒนาการทั้งขาเข้าและขาออกชั่วคราว เป็นระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร
       ล่าสุด พ.ต.อ.สิทธิภาพ ใบประเสริฐ ผกก.สน.คลองตัน กล่าวถึงเหตุการณ์รถแก๊สประสบอุบัติเหตุพลิกคว่ำ ว่า ได้สอบถามวิศวกร ปตท. ที่เดินทางมายังจุดเกิดเหตุ พบว่า สถานการณ์พ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ยังต้องปิดการจราจรอยู่ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คน ส่งไปรักษาตัวที่ ร.พ.เพชรเวช แล้ว ส่วนคนขับรถแก๊ส ไม่อยู่ในที่เกิดเหตุ กำลังตามหาตัวอยู่ เนื่องจาก ได้หลบหนีไปจากที่เกิดเหตุ สำหรับ บ้านเรือนใกล้เคียง ไม่ได้รับความเสียหาย คาดว่า สถานการณ์จะปกติได้ในอีก 1 ชั่วโมง ต้องให้แก๊สเผาผลาญไปกับเพลิงให้หมด ทั้งนี้ โชคดีที่ถังแก๊ส มีระบบเซฟตี้ทำงาน ทำให้แก๊สพุ่งสู่อากาศ และไม่เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง

ยืนยันแล้วเซ็กซ์เทป"ทูลิซา"ของแท้เจ้าตัวสุดเศร้าแฟนเก่าปล่อยเอง

"ทูลิซา คอนโทสตาฟลอส" สาวสวยผู้ตัดสินจากรายการ X Factor ยืนยันแล้วว่าเซ็กซ์เทปที่เธอออกมาปฏิเสธก่อนหน้านี้ว่าเป็นสาวหน้าคล้ายที่ แท้เป็นของเจ้าตัวจริงๆ เผยอดีตแฟนหนุ่ม "จัสติน เอ็ดเวิร์ด" หรือที่รู้จักในนาม "เอ็มซี อัลตรา"เป็นคนปล่อยเอง


ทูลิซา คอนโทสตาฟลอส ออกอาการเศร้าอย่างหนักหลังจากที่อดีตแฟนหนุ่มของเธอเองเป็นคนปล่อยคลิปลับ ดังกล่าวลงอินเตอร์เน็ตโดยเจ้าตัวออกมาสารภาพโพสท์ไว้ใน YouTube เลยทีเดียว
ทูลิซา สาวสวยวัย 23 ปี เปิดเผยว่าจัสตินเป็นหนุ่มนิรนามที่อยู่ในเซ็กซ์เทปดังกล่าว โดยระบุว่า "อย่างที่คุณคิด ฉันเสียใจมาก เจ็บสุดๆเลย โดยเฉพาะเมื่อคุณมีช่วงเวลาส่วนตัวกับคนที่คุณรัก คนที่คุณแคร์และเชื่อใจ คุณไม่นึกเลยแม้แต่นาทีเดียวว่าช่วงเวลาเหล่านั้นมันได้ถูกแชร์ไปให้กับคน ทั่วอังกฤษรวมถึงคนทั่วโลกด้วย อย่างที่คิดนั่นแหละค่ะ มันเป็นช่วงเวลาที่สาหัสสำหรับฉันจริงๆ"
       "แต่ฉันไม่คิดว่าฉันจะเป็นคนเดียวที่ตกเป็นประเด็นร้อน เขาเป็นคนที่ถ่ายคลิปนั้นด้วยตัวเขาเองแล้วก็อัพโหลดมันสู่โลกออนไลน์ แต่ตอนนี้เขาเก็บตัวเงียบแล้วทำเหมือนว่าเขาไม่ใช่คนในคลิปนั้น ฉันไม่มีทางนั่งอยู่เฉยๆแล้วปล่อยให้ถูกทำร้ายหรือให้คนอื่นมาหาผลประโยชน์ ใส่ตัวเด็ดขาด"
       นักร้องสาวยอมรับว่าการที่เธอตัดสินใจออกมาพูดเรื่องนี้เป็นเพราะเธอ รู้สึกว่าถูกทรยศหักหลังจากอดีตแฟนหนุ่มและอยากให้ทุกคนรู้ว่าใครกันที่อยู่ เบื้องหลังการปล่อยคลิปลับนี้
       "จัสติน เอ็ดเวิร์ด หรือ อัลตรา เป็นแฟนเก่าของฉัน เขาปล่อยมันเองแต่ทำเหมือนเป็นคนอื่น โปรดตัดสินเราจากทั้งสองฝ่าย แต่ฉันอยากบอกว่า เมื่อคุณตัดสินใคร มันไม่ได้กำหนดคนที่คุณตัดสิน แต่มันกำหนดตัวคุณเอง"
       นักร้องสาวระบุต่อไปด้วยว่า "จัสตินคือคนที่ฉันคบตอนอายุ 17 เรารักๆเลิกๆกันมานานหลายปี ตอนที่ฉันอายุ 19 เรามาอยู่ด้วยกันประมาณปีครึ่ง ฉันย้ายไปอยู่กับเขาเรารักกันสุดๆ เราคุยกันถึงเรื่องแต่งงาน เราคุยกันเรื่องมีลูกด้วย"
       เธอยังเผยด้วยว่าเธอถูกเตือนเมื่อปีที่แล้วว่าเขาอาจปล่อยคลิปนี้ "เมื่อ 6 เดือนก่อน ฉันได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนของพวกเราที่รู้จักกันบอกว่าเขามีคลิปของฉันอยู่ เขาเตรียมที่จะปล่อยออกมาเพื่อทำลายชื่อเสียงและหน้าที่การงานของฉัน"
       "ฉันไปเผชิญหน้ากับเขา เขาโกหกเรื่องนี้ อย่างที่เห็นตอนนี้คลิปนั้นส่งไปทั่วโลกออนไลน์แล้ว"

'The New iPad' 3 วัน 3 ล้านเครื่อง

แอปเปิลทำลายสถิติการจำหน่าย iPad ด้วยยอดขาย New iPad หลังเปิดเผยว่าในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่ามียอดจัดจำหน่ายไปแล้วกว่า 3 ล้านเครื่อง พร้อมประกาศขายเพิ่มอีก 24 ประเทศในวันศุกร์ที่ 23 มีนาคมนี้



       ข้อความในจดหมายประชาสัมพันธ์ของแอปเปิลโดย ฟิล ชิลเลอร์ รองประธาน ฝ่ายการตลาดทั่วโลก แอปเปิล ระบุว่า ยอดจำหน่ายของ New iPad ถือเป็นการเปิดตัวที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดเมื่อเทียบกับการจำหน่าย 2 ครั้งที่ผ่านมา
       "ผู้บริโภคหลงไหลกับฟีเจอร์ที่แปลกใหม่ของ iPad รวมถึงหน้าจอ Retina display และอดใจรอไม่ไหวที่จะเห็นผู้บริโภคอีกจำนวนมาก จะได้ซื้อไอแพดในวันศุกร์นี้"
       โดย New iPad เริ่มจำหน่ายในช่วงวันศุกร์ที่ 16 มีนาคม ที่ผ่านมาใน สหรัฐฯ ออสเตรเลีย แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมัน ฮ่องกง ญี่ปุ่น เปตโตริโก้ สิงคโปร์ สวิตเซอร์แลนด์ อังกฤษ และจำหน่าย เพิ่มอีก 24 ประเทศ ในวันที่ 23 มีนาคมนี้ 8.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นใน ออสเตรีย เบลเยียม บัลแกเรีย เช็ก เดนมาร์ก ฟินแลนด์ กรีซ ฮังการี ไอส์แลนด์ ไอร์แลนด์ อิตาลี ลิเคสไตน์ ลักแซมเบิร์ก มาเก๊า แมกซิโก เนเธอแลนด์ นิวซีแลนด์ นอร์เวย์ โปแลนด์ โปรตุเกส โรมาเนีย สโลวาเกีย สโลวีเนีย สเปน และ สวีเดน
       ทั้งนี้สถิติการจำหน่าย iPad 2 เมื่อช่วงเริ่มวางจำหน่ายในปีที่ผ่านมา อยู่ที่ 1 ล้านเครื่องภายใน 1 สัปดาห์ ตามรายงานของรอยเตอร์ ขณะที่สมัย iPad รุ่นแรก สามารถทำยอดจำหน่ายได้ 3 แสนเครื่องในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งในขณะนั้นเกิดปัญหาสายพานการผลิต ทำให้ไม่สามารถผลิตได้ทัน ส่วนล่าสุด iPhone 4S ทำสถิติ 4 ล้านเครื่อง ในสัปดาห์แรก ซึ่งรวมการจองล่วงหน้าด้วย
Company Relate Link :
Apple

“ก้อย-โย่ง” แต่งวันที่ 5 เดือน 5 ปี 55 เผยฝ่ายชายลงทุนตัดเย็บชุดเจ้าสาวด้วยตัวเอง

“ก้อย- โย่ง” เผยฤกษ์สะดวกวิวาห์วันที่ 5 เดือน 5 ปี 55 เพราะเป็นวันที่มีแต่ 555 ชีวิตจะได้มีแต่เสียงหัวเราะ ธีมงานย้อนยุค ฝ่ายชายลงทุนเรียนตัดเย็บเสื้อผ้าเพื่อตัดเย็บชุดแต่งงานให้กับฝ่ายหญิง อยากไปฮันนีมูนด้วยการนั่งรถไฟไซบีเรีย ซึ่งเป็นเส้นทางรถไฟที่ยาวที่สุดในโลกเพื่อเป็นการพิสูจน์รักแท้ พร้อมเปิดอู่ปั๊มลูกแฝดทันที
       มีแพลนวิวาห์ไว้ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา สำหรับคู่รักนักร้องขวัญใจเด็กแนว “โย่ง อาร์มแชร์" อนุสรณ์ มณีเทศ และ “ก้อย แซทเทอร์เดย์ เซโกะ” วลัยลักษณ์ มุสิกโปฏก แต่เพราะพิษน้ำท่วมจึงมีเหตุต้องเลื่อนงานแต่งออกไป ล่าสุดทั้งคู่ได้มาร่วมงานเปิดตัวคอนโด แอ็บสแตรกส์ พหลโยธิน พาร์ค (ลาดพร้าว) พร้อมโชว์มินิคอนเสิร์ต ที่จำลองพิธีแต่งงานย่อยๆของทั้งคู่ งานนี้จึงได้เห็นช็อตหวานๆ อีกทั้งว่าที่เจ้าบ่าวและเจ้าสาวยังได้เปิดใจถึงพิธีงานแต่งที่ใกล้จะถึงใน เดือนพฤษภาคมนี้ว่า
โย่ง : “เรื่องงานแต่งตอนนี้ก็ได้ฤกษ์เป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ วันที่ 5 เดือน 5 ปี 55 ที่เลือกวันนี้เพราะเป็นฤกษ์ที่สะดวกเลยขอแอบมีเรื่องตัวเลขนิดนึงเป็นวัน ที่น่ารักที่สุดของปีเวลาพูดออกมามันมีแต่ 555 เหมือนเสียงหัวเราะ และก็เป็นวันเสาร์เพื่อนๆ สะดวกกันด้วย แล้วที่สำคัญเวลาที่วันครบรอบมันจำได้ง่ายด้วย (หัวเราะ)”
ก้อย : “แล้วอีกอย่างเรื่องสถานที่ก็อำนวยด้วยว่างพอดี ที่เลือกจัดที่มิวเซียมสยามคือต้องบอกก่อนว่าเราเลือกกันหลายที่โรงแรมก็ สะดวกดี แต่ส่วนตัวเราก็คิดว่าวันนี้โรงแรมคงเต็มหมด จริงๆแล้วที่ก้อยชอบมิวเซียมสยามเพราะที่นั่นเป็นที่เก็บรวบรวมความทรงจำดีๆ และเราก็อยากมีความทรงจำที่ดีก็ต้องขอบคุณสถานที่ด้วย”
       จัดงานที่มิวเซียมสยามตอนนี้การเตรียมงานคืบหน้าไป 30 เปอร์เซ็นต์แล้ว
โย่ง : “ธีมงานแต่งชอบแบบวินเทจสไตล์ 1920 อยากให้คนที่มางานร่วมใส่หมวกกันด้วย”
ก้อย : “คืองานจัดนอกสถานที่มันไม่รู้ฝนจะตกหรือเปล่าเลยให้ใส่หมวกกันไว้ก่อน แต่จริงๆ ถ้าฝนมาก็ไม่กลัว”
โย่ง : “เรื่องความพร้อมตอนนี้ก็เตรียมไปได้ 30 เปอร์เซ็นต์กว่าๆ ตอนแรกเราก็จัดกันเองทำกันเอง ไม่คิดว่ารายละเอียดมันจะเยอะขนาดนี้ แต่ไม่คิดจะวุ่นวายขนาดนี้ทั้งอาหาร สถานที่ ชุดอีก ตอนนี้ก็เลยมีเพื่อนเข้ามาช่วย”
       อยากไปฮันนีมูนไซบีเรียเพื่อพิสูจน์รักแท้
ก้อย : “เรื่องฮันนีมูนเดี๋ยวอาจจะดูๆกันไว้”
โย่ง : “ตอนแรกจะ ชวนคุณก้อยไปนั่งรถไฟสายทรานส์ไซบีเรียซึ่งต้องใช้เวลา2เดือน ที่อยากไปเพราะอยากจะพิสูจน์รักว่าถ้าอยู่ด้วยกัน 2 เดือนเห็นหน้ากันทั้งวันทั้งคืน คือถ้าไม่รักก็คงเกลียดกันไปเลย (หัวเราะ) ส่วนเรือนหอผมก็กำลังสร้างออฟฟิศอยู่ก็เหมือนเป็นบ้านของผม เสร็จไป 70 - 80 เปอร์เซ็นต์แต่งเสร็จคุณก้อยก็จะย้ายเข้าไปดูแล อยู่ย่านเกษตรนวมินทร์”
       เผยชุดแต่งงาน “โย่ง” เป็นคนออกแบบตัดเย็บเอง
ก้อย : “เรื่องชุดงานแต่งอย่างที่บอกคุณโย่งออกแบบตัดเย็บให้ค่ะ”
โย่ง : "เรื่องชุดเราก็ได้เห็นแบบที่เขาร่างไว้ในกระดาษแล้ว เราก็“ตั้งใจ ทำให้เขาเพื่อเป็นของขวัญ ที่ผ่านมาคุณก้อยไม่เคยขอร้องอะไรที่ทำให้ผมลำบากใจ ผมเลยรู้สึกอายตัวเองเพราะคุณก้อยเขาดูแลผมดีมาก ผมก็เลยอยากให้วันแต่งงานเขาสวยที่สุด ตอนแรกเรียนผ่านยูทูปแต่มันไปไม่รอด เลยไปหาคุณครูเก่งๆ มาสอน ตอนนี้เริ่มขึ้นโครงแล้วและกำลังจะไปซื้อผ้า ได้เกาะอกแล้วครับกำลังลงมาที่กระโปรงสีก็ครีมๆขาวๆ คิดว่าเสร็จทันแน่นอน"
ก้อย : อยากขอดูบ้างเห็นแล้วก็น่ารักมากกว่า ก้อยทึ่งมากเพราะมันเป็นเรื่องที่ยากมาก มันคงไม่เซอร์ไพร์สแล้วเพราะเรารู้แล้ว แต่มันยิ่งกว่าเซอร์ไพร์สอีกเขาต้องอดทนมาก ส่วนเรื่องเซอร์ไพร์สเขาต้องมีแน่นอน”
โย่ง : "ถามว่าต่อจากนี้ไปจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรไหมหลังจากที่แต่งงานแล้ว ผมว่าการแต่งงานก็คืองานปาร์ตี้งานหนึ่งที่เชิญแขกมาร่วมเป็นสักขีพยานเพื่อ ให้รู้ว่าเรากำลังเปลี่ยนสถานะจากแฟนมาเป็นสามีภรรยาแค่นั้นเอง ถ้ามันจะเปลี่ยนแปลงมันคงเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นมากกว่า ส่วนเรื่องลูกได้หมดครับไม่ว่าจะชายหรือหญิง ขอให้เกิดมาแข็งแรงพอ"
ก้อย : “อยากได้แฝดนะ (หัวเราะ)”


ระทึก! ถ.พระราม 4 ทรุดตัวเป็นหลุมยักษ์กว้าง 5 เมตร

เกิดเหตุระทึก ถ.พระราม 4 ช่วงใต้สะพานไทย-เบลเยียม ใกล้แยกวิทยุ ทรุดตัวเป็นหลุมยักษ์กว้าง 5 เมตร ลึก 2 เมตร โชคดีไม่มีใครได้รับอันตราย ตำรวจเร่งปิดการจราจร ขณะที่เจ้าหน้าที่ กทม.รุดตรวจสอบพร้อมเร่งซ่อมแซมพื้นผิวการจราจร

       วันนี้ (18 มี.ค.) เมื่อเวลา 19.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเกิดเหตุถนนทรุดตัวจนเป็นหลุมขนาดใหญ่ บนถนนพระราม 4 ฝั่งขาเข้า บริเวณใต้สะพานไทย-เบลเยียม ก่อนถึงแยกวิทยุ ประมาณ 10 เมตร ด้านหน้าทางลงรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีลุมพินี (ประตู 2) แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กทม.
       ที่เกิดเหตุพบว่าจุดดังกล่าวพื้นผิวถนนได้ทรุดตัวลงลึกประมาณ 2 เมตร กว้าง 5 เมตร เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้นำแผงเหล็กและสาย ก้ันมาล้อมจุดที่เกิดเหตุไว้ พร้อมกันประชาชนออกห่างจากจุดที่เกิดเหตุ ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สน.ทุ่งมหาเมฆ ได้ทำการปิดการจราจรถนนพระราม 4 ช่วงขาเข้า โดยให้รถเบี่ยงขึ้นสะพานไทย-เบลเยียมแทน ทำให้การจราจรติดขัดเป็นระยะทางยาว

 
       นายเรืองยุทธ มุสิกพันธ์ อาชีพชับขี่จักรยานยนต์รับจ้าง วินหน้าอาคารคิวเฮ้าส์ลุมพินี กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่ตนเองกำลังนั่งรอผู้โดยสารได้สังเกตเห็นรถบรรทุกสิบล้อมา จอดรอสัญญาณไฟอยู่บริเวณจุดที่เกิดเหตุ โดยมีรถเก๋งอีกคันที่มาต่อท้ายอีกหนึ่งคัน กระทั่งเมื่อสัญญาณไฟเปลี่ยนเป็นสีเขียวขณะที่รถสิบล้อเคลื่อนตัวออก ได้เกิดเสียงดังขึ้นก่อนที่จะเกิดการทรุดตัวของถนน ทำให้รถเก๋งคันที่ต่อท้ายรถสิบล้อคันดังกล่าวล้อหลังตกไปในหลุม แต่ก็สามารถเร่งเครื่องขึ้นมาได้ โดยที่ตัวรถไม่ได้รับความเสียหาย ส่วนรถคันอื่นไม่ได้รับอันตรายแต่อย่างใด เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าวการจราจรบนถนนเบาบาง
       ด้าน นายวุฒิ เกตุนิรัตน์ เจ้าหน้าที่หน่วย Best สำนักงานเขตสาทร กล่าวว่า หลังรับแจ้งเหตุได้มาตรวจสอบพบว่าด้านล่างเป็นโพรงกว้าง ลึก 2 เมตร ซึ่งสาเหตุน่าจะมาอจากการที่ทรายรองรับพื้นผิวการจราจรที่ถูกน้ำเซาะลงไปภาย ในท่อประปาที่อยู่ด้านล่างจนเกิดเป็นโพรง ประกอบกับถนนเส้นนี้มีรถบรรทุกขนาดใหญ่วิ่งผ่านเป็นจำนวนมากทำให้ถนนไม่ สามารถรองรับน้ำหนักได้ จึงเกิดการทรุดตัว อย่างไรก็ตาม ได้ประสานสำนักการโยธาให้มาดำเนินการซ่อมแซมพื้นผิวจราจร เพื่อให้สามารถเปิดการจราจรได้โดยเร็วที่สุด

 
       ต่อมา ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเปิดเผยว่า เบื้องต้นยังไม่ขอสรุปสาเหตุการทรุดตัวของถนนในครั้งนี้ โดยหลังจากนี้จะเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ การประปานครหลวง สำนักการโยธา และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) มาประชุมหารือเพื่อหาสาเหตุของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้สำนักการโยธาเร่งทำการซ่อมแซมพื้นผิวการจราจร โดยให้เทหินคลุกลงไปในหลุมก่อนราดยางมะตอยทับอีกชั้น เชื่อว่าคืนนี้จะดำเนินการแล้วเสร็จ ขณะเดียวกันจะติดป้ายเตือนผู้ใช้รถให้เพิ่มความระมัดระวังในจุดดังกล่าวด้วย
       ด้าน นายรณชิต แย้มสอาด รักษาการ ผู้ว่าการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวว่า แม้จุดเกิดเหตุจะใกล้กับประตูทางออกของสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน สถานีลุมพินี รวมถึงอยู่เหนือสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน แต่ยืนยันว่าไม่กระทบต่อโครงสร้างของสถานี รวมถึงตัวอุโมงค์รถไฟฟ้าที่อยู่ลึกลงไปอีกกว่า 20 เมตร อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 19 มี.ค.55 จะสั่งการให้วิศวกรของ รฟม.เข้าตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชน

Apple เร่งผลิต iPad mini วางตลาดปีนี้

จากรายงานข่าวเมื่อวานนี้ คงจะทราบกันไปแล้วนะครับว่า ใครเป็นผู้ออกแบบ iPad 3 สำหรับเช้านี้มีข่าวเกี่ยวกับ iPad ออกมาอีกแล้ว แต่ไม่ใช่ iPad 3 อ้าว...แล้วมันเป็นรุ่นไหนกันอีกล่ะ? เนื่องจากตลาดของ"แท็บเล็ต"ที่ยังคงโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะแท็บเล็ตขนาด 7 นิ้วที่ตอนนี้ Amazon กำลังสอยอย่างเมามันด้วย Kindle Fire ล่าสุดมีรายงานออกมาจากเว็บไซต์ Digitimes ว่า Apple กำลังพยายามย่อ iPad เพื่อออกรุ่นที่มีหน้าจอเล็กลงเหลือ 7.35 นิ้ว


นอกจากนี้ ในรายงานข่าวยังอ้างอีกว่า Apple จะเริ่มผลิต iPad ที่มีหน้าจอขนาด 7.35" เป็นจำนวนมากในช่วงไตรมาสที่สามของปี 2012 ประเด็นที่ทำให้ข่าวนี้มีความน่าเชื่อถือว่า อาจเป็นไปได้ เพราะเว็บไซต์ดิจิไทมส์จะเก็บข้อมูลมาจากบรรดาโรงงานผลิตชิ้นส่วนในการผลิตสินค้าของ Apple ซึ่งส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในอาเซียน อย่างไรก็ตาม ดังที่ได้เคยนำเสนอข่าวให้คุณผู้อ่านเว็บไซต์ arip ได้ทราบกันไปแล้วว่า จากแนวคิดของ Steve Jobs ที่ต่อต้าน iPad ที่มีขนาดหน้าจอเล็กกว่า 9.7 นิ้ว ยังเป็นประเด็นที่ทำให้หลายคนกังขากับข่าวนี้




อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวเกี่ยวกับ iPad ขนาดเล็กกว่า หรือจะเรียก iPad mini ยังคงมีให้ได้ติดตามกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมถึงรายงานข่าวล่าสุดนี้ด้วย โดยแหล่งข่าวยังระบุอีกด้วยว่า ราคาของ iPad รุ่นหน้าจอเล็กจะอยู่ที่ประมาณ 249 - 299 เหรียญฯ (7,500 - 9,000 บาท) ซึ่งด้วยราคาเทียบกับแบรนด์ iPad ของ Apple มันจะกลายเป็นสินค้าขายดีสำหรับผู้ที่ชื่นชอบแท็บเล็ตหน้าจอขนาดนี้ นอกจากเรื่องของ iPad จอเล็กแล้ว ดิจิไทมส์ยังอ้างอีกว่า การเปิดตัว iPad 3 ในสัปดาห์หน้า นอกจากจะมีการแนะนำรุ่น 16GB และ 32GB แล้ว Apple ยังจะแนะนำ iPad 2 รุ่น 8GB ที่มีราคาถูกกว่าตามมาอีกด้วย